รัฐบาลพร้อมอัดฉีดเม็ดเงิน 3.5 หมื่นลบ.เพิ่มความเข้มแข็งศก.ฐานราก ดัน GDP ปีนี้โตกว่า 3%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 17, 2016 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้กว่า 3% แต่สิ่งสำคัญคือจะต้องเน้นการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางไว้ และต้องการให้ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จากภาพรวมเศรษฐกิจไทยทั้งปี 2558 ถือว่าดีขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง และแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจโลกจะยังไม่ฟื้นตัว แต่ก็ไม่อยากให้ทุกฝ่ายตื่นตระหนกจนเกินไป ซึ่งรัฐบาลก็จะมีการติดตามงานด้านเศรษฐกิจในทุกๆ ด้านให้ขับเคลื่อนตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังก็ยังคงเดินตามแผนงาน โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู โดยได้เตรียมที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP)

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งเน้นจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ต้องการนำเม็ดเงินเพื่อไปลงทุนและประคับประคองเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี วันศุกร์ที่ 19 ก.พ.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเปิดตัวโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐวงเงิน 35,000 ล้านบาท

สำหรับกรณีปัญหาสายการบินนกแอร์ นายสมคิด ระบุว่า ปัญหาที่เกิดเป็นเรื่องภายในของนกแอร์ที่ต้องการยกระดับการบินของบริษัท และไม่เกี่ยวข้องกับการประเมินของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสหภาพยุโรป (EASA) ซึ่งกระทรวงคมนาคมก็ได้รายงานการเชิญตัวผู้บริหารของนกแอร์มาทำความเข้าใจแล้ว พร้อมกำชับว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้นอีก

รองนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบต่อร่าง พ.ร.บ.พาณิชยนาวี ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะนำไปทบทวนอีกครั้งก่อนส่งมาให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา โดยที่ประชุมมีคำแนะนำว่าในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวควรมีการกำหนดเรื่องการพัฒนาและขยายการใช้งานท่าเรือแหลมฉบังและพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือ รวมถึงพัฒนาพาณิชยนาวีให้เกิดความแข็งขันและผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ทางทะเล

พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 6 ชุด ที่จะมาดูแลงานในด้านพาณิชย์นาวีทั้งหมดด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ