ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 35.60/61 คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.55-35.65

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 18, 2016 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.60/61 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ
35.57 บาท/ดอลลาร์

"ประเด็นเช้านี้ มีรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 26-27 ม.ค.แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ กำหนดนโยบายของเฟดหลายรายมีความกังวลไม่ค่อยมั่นใจความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก อาจจะมีผลกระทบต่อการขึ้น Rate ของ สหรัฐฯ ค่อนข้างไปในทิศทางเดียวกับที่ประธานเฟดออกมาพูดล่าสุด ดอลลาร์ก็ซึมลงนิดหน่อยเมื่อเช้า" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.55-35.65 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.90 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 114.00 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1140 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1128 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6460 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.)เปิดตัว "สินเชื่อส่งออกทวีค่า" อัตราดอกเบี้ยเพียง
3.99% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดในระบบธนาคารพาณิชย์สำหรับผู้ส่งออกของไทยขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) โดยสินเชื่อ
ดังกล่าวประกอบด้วย 1.สินเชื่อส่งออกทวีค่าวงเงิน 10,000 ล้านบาท ภายใต้มีเงื่อนไข 1.ต้องเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ และต้อง
เป็นสินค้าใหม่หรือส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่ และ 2.การบริการรับซื้อตั๋วส่งออกทวีค่าวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อประกันการส่ง
ออก โดยมีวงเงินรวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวประมาณ 500-1,000 ราย
โดยจะปล่อยกู้ต่อรายได้ไม่เกิน 20 ล้านบาท
  • "สมคิด" มอบนโยบายท่องเที่ยว ชี้ช่องเชื่อมโยงประเทศเพื่อนบ้าน หารือสายการบินเปิดเส้นทางบินเพิ่มเติม พร้อม
เพิ่มความหลากหลายครบวงจร ดึงนักท่องเที่ยวกระจายสู่ภูมิภาค ชูจุดขายจากวัฒนธรรมท้องถิ่น หวังพึ่งเม็ดเงินช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • บล. "ทิสโก้" คาดการณ์หุ้นไทยปีวอกไปได้ไม่ไกล จากปัจจัยภายในและนอกประเทศ แต่แรงขายต่างชาติน่าจะชะลอ
ตัวลงแล้ว หลังขายทิ้งกว่า 4 แสนล้านบาท ส่วนเม็ดเงินจะไหลกลับมาอีกเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับการเมืองที่ต้องมีความชัดเจน และตัวเลข
เศรษฐกิจที่ยังเห็นการฟื้นตัว แนะลดดอกเบี้ยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเครื่องยนต์ทั้งการส่งออก การบริโภคทำงานไม่เต็มที่
  • ประธานาธิบดี บารัก โอบามา ของสหรัฐ ประกาศแผนส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและประเทศ
สมาชิกอาเซียน โดยออกเป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภูมิภาค เปิดเผยว่า ภูมิภาคที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วอย่างอา
เซียนเป็นคู่ค้าที่สำคัญมากของสหรัฐ
  • การประชุมระหว่างรัฐมนตรีน้ำมันของอิหร่าน และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยรัฐมนตรีน้ำมัน
ของอิหร่านประกาศว่าจะสนับสนุนความพยายามในการสร้างเสถียรภาพต่อราคาน้ำมัน ซึ่งรวมถึงการให้ความร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้
ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) ขานรับข่าวที่ว่า อิหร่านได้ตัดสินใจ
ร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้มีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจาก
สหรัฐเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนม.ค. โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดพุ่งขึ้น
1.62 ดอลลาร์ หรือ 5.6% แตะที่ระดับ 30.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ปีนี้

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 2.32 ดอลลาร์ หรือ 7.2% แตะ ที่ระดับ 34.50 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลัง
จากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่ว
โลกอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก
3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.26% แตะที่ระดับ 1,211.40 ดอลลาร์/ออนซ์
  • รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 26-27 ม.ค.แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของ
เฟดหลายรายมีความกังวลว่าราคาน้ำมันที่ร่วงลงและความปั่นป่วนของตลาดการเงินทั่วโลกได้ก่อความเสี่ยงช่วงขาลงมากขึ้นต่อแนว
โน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
  • ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (17 ก.พ.) หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) ในเดือนม.ค.แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่เฟดมีความกังวลว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกอาจจะส่งผลกระทบต่อแนวโน้ม
เศรษฐกิจสหรัฐ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนม.ค. หลังจากร่วงลง
3 เดือนติดต่อกัน
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลงในเดือนม.ค. โดยได้รับผลกระทบจากภาวะ
อากาศหนาวเย็นซึ่งกระทบการก่อสร้างในบางภูมิภาค
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนม.ค.ปรับตัวขึ้น
1.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอัตราการขยายตัว 1.6% ในเดือนธ.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ