"ที่ประชุม TIFA ได้หารือถึง ASEAN-U.S. Connect Initiatives ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ประกาศ ณ Sunnylands เพื่อให้อาเซียนกับสหรัฐฯ มีการเชื่อมโยงกันใน 4 เรื่อง ได้แก่ ธุรกิจ พลังงาน นวัตกรรม และนโยบาย" นางอภิรดี กล่าว
พร้อมกันนี้ได้เตรียมจัดตั้งสำนักงาน Connect Center ในกรุงเทพฯ จาการ์ตา และสิงคโปร์ เพื่อเป็นการยืนยันว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับภูมิภาคอาเซียนเป็นอันดับแรกๆ นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับการเสนอจัดอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการค้า (U.S.-ASEAN Trade Workshops) ของสหรัฐฯ ให้แก่อาเซียน เพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจเกี่ยวกับความตกลงการค้าเสรีที่มีมาตรฐานสูงอย่างความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ให้กับประเทศสมาชิกอาเซียน โดยข้อริเริ่มทั้งสองได้รับการตอบรับจากสมาชิกอาเซียนทุกประเทศด้วยดี
รมว.พาณิชย์ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า อาเซียนและสหรัฐฯ ควรมีการหารือในรายละเอียดถึงแนวทางการเชื่อมโยงต่อไป สำหรับข้อเสนอการจัด U.S.-ASEAN Trade Workshops ของสหรัฐฯ ถือเป็นโอกาสในการส่งเสริมความเข้าใจของไทยในระหว่างศึกษาความพร้อมต่อความตกลง TPP ต่อไป
ทั้งสองฝ่ายยังได้ยืนยันการดำเนินความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นในอนาคต และขอให้สหรัฐฯ แลกเปลี่ยนประสบการณ์แก่สมาชิกอาเซียนในเรื่องการพัฒนา SMEs ICT และ e-commerce เป็นต้น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและขีดความสามารถทางการแข่งขันของอาเซียน ในการนี้ อาเซียนได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยเหลือในการจัด trade fair ตามเมืองต่างๆ เพื่อให้ชาวอเมริกันรู้จักอาเซียนมากขึ้น รวมทั้งเสนอให้สหรัฐฯ จัดตั้ง U.S.-ASEAN Center ที่สหรัฐฯ ด้วย โดยที่ประชุมฯ ได้มอบหมายให้สำนักเลขาธิการอาเซียนหารือกับสหรัฐฯ เพื่อจัดเตรียมร่างเอกสารแนวคิด (Concept Paper) เสนอต่อที่ประชุม AEM-U.S. Dialogue ในช่วงเดือนสิงหาคม 2559 ต่อไป
นอกจากการหารือแผนงานฯ กับรัฐบาลสหรัฐฯ รมต.เศรษฐกิจอาเซียนทั้ง 10 ประเทศยังได้ร่วมเปิดงานสัมมนา U.S.-ASEAN Business Council Conference ของสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน และได้มีการอภิปรายเกี่ยวกับว่าความสำเร็จในการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและวิสัยทัศน์อาเซียนภายหลังปี 2558 เพื่อตอกย้ำการเป็นตลาดเดียวและฐานการผลิตของโลก และเหตุผลที่สนับสนุนว่าทำไมอาเซียนจึงควรเป็นภูมิภาคที่นักธุรกิจสหรัฐฯ ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
รมว.พาณิชย์ ได้กล่าวกับนักธุรกิจสหรัฐฯว่า นอกเหนือจากการขจัดมาตรการที่เป็นอุปสรรคทางการค้าแล้ว อาเซียนยังมุ่งเน้นการปรับประสานมาตรฐานให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกและเสริมสร้างบรรยากาศการค้าและการลงทุนในอาเซียน ขณะที่นายโจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ได้กล่าวถ้อยแถลงในงานสัมมนาดังกล่าวด้วย โดยในช่วงบ่าย รมต.เศรษฐกิจอาเซียนจะเดินทางไปดูงาน ณ Autodesk Gallery ซึ่งเป็นแกลอรี่ที่รวบรวมผลงานนวัตกรรมการออกแบบทั่วโลกที่ใช้ Software ของบริษัทฯ เป็นเครื่องมือในการคิดค้น
งานสัมมนาดังกล่าวถือเป็นการเน้นย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพของอาเซียนแก่สหรัฐฯ ในฐานะนักลงทุนรายสำคัญของภูมิภาคอาเซียน โดยในปี 2558 การลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (FDI) ของสหรัฐฯ ในอาเซียนมีมูลค่าถึง 206 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 7,200 พันล้านบาท) ในขณะที่อาเซียนมีมูลค่า FDI ในสหรัฐฯ ประมาณ 20 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 700 พันล้านบาท) ซึ่งทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่ามูลค่าการลงทุนระหว่างกันจะขยายตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่องในอนาคต