ขณะเดียวกันจะขอให้คงรายละเอียดข้อตกลงเดิมไว้คือ ให้คิง เพาเวอร์ เป็นผู้ซื้อสินค้าขาดจากผู้ประกอบการสินค้าโอทอป ไม่ใช่เพียงแค่การฝากวางจำหน่ายเท่านั้น ซึ่งคิง เพาเวอร์ สามารถบวกกำไรได้ตามความเหมาะสม โดยข้อดีของการซื้อขาดจะทำให้คิง เพาเวอ ร์ต้องเอาใจใส่ให้ขายสินค้าได้
"ในปีนี้ กรมฯ ต้องการให้เอกชนคงเงื่อนไขการสนับสนุนสินค้าโอทอปไว้เหมือนเดิม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เพราะมีข้อมูลเบื้องต้นว่าเอกชนอาจเปลี่ยนพื้นที่วางจำหน่าย ซึ่งอาจไม่ใช่ทำเลที่ดีเหมือนเดิม เช่นเดียวกับเงื่อนไขการรับสินค้าให้คงแบบที่เอกชนซื้อขาย แต่ในปีนี้กรมฯ จะจัดหาผู้ประกอบการโอทอปรายใหม่ๆ ให้เอกชนไปเลือกสินค้า ซึ่งจะเป็นผลดีในแง่การหมุนเวียนให้สินค้าโอทอปมีความหลายหลาก และกระจายประสบการณ์ทางการตลาดให้ผู้ประกอบการโอทอปหน้าใหม่ได้เข้าถึงตลาด ส่วนผู้ประกอบการรายเดิม จะเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาให้ไปสู่การเป็นผู้ประกอบการระดับสากลต่อไป" อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าว
นอกจากนี้ กรมฯ ยังจะเจรจากับเอกชนรายอื่นอีก เช่น เดอะมอลล์กรุ๊ป รวมถึง บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) หรือ AOT เพื่อใช้แนวทางพัฒนาเดียวกันนี้ในการส่งเสริมสินค้าโอทอปให้มีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น เช่น จะเจรจาขอวางขายในสนามบินนานาชาติแห่งอื่นที่มีอยู่ทั่วประเทศ เช่น สนามบินดอนเมือง, สนามบินอู่ตะเภา และสนามบินภูเก็ต เป็นต้น