ส่วนจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนหรือไม่ คงไม่สามารถให้ความเห็นได้ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
“ธปท. ยังคาดหวังว่า การบริโภคจะกลับมาดีขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยสนับสนุนต่างๆ จากภาครัฐ รวมถึงการลงทุนในบางอุตสาหกรรม นอกจากนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ซึ่งคาดหวังว่าปรากฎการณ์เอลนีโญจะคลี่คลายลง ขณะที่การหดตัวของภาคการส่งออกเป็นไปตามคาดการณ์อยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจอะไรมาก" น.ส.พรเพ็ญ กล่าว
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจในเดือน ม.ค.59 มูลค่าการส่งออกยังติดลบ -9.3% เป็นผลมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ซึ่งหากต้องการให้การส่งออกขยายตัวได้ 0.0% ตามประมาณการ การส่งออกจะต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1.7 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้า -17.8% และการบริโภคภาคเอกชนยังชะลอตัว เป็นผลจากรายได้ภาคเกษตรปรับลดลง 3.7% ตามราคายางพาราและมันสำปะหลัง โดยราคาสินค้าเกษตรหดตัว 6.3%
อย่างไรก็ดี ภาคการท่องเที่ยวยังปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือน ม.ค.นักท่องเที่ยวต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังขยายตัวได้ดี หากสามารถเบิกจ่ายงบประมาณและงบลงทุนได้เป็นไปตามเป้าหมายก็จะเป็นตัวส่งให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังติดลบ 0-0.53% เป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง และ อัตราว่างงานอยู่ในระดับต่ำ