ทั้งนี้ ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลชุดปัจจุบัน กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการวางกรอบแผนพลังงานในภาพรวมใหม่ โดยยึดหลักการบูรณาการแผนงานที่มีอยู่เข้าด้วยกัน และยึดแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555– 2559) เป็นหลัก รวมถึงบูรณาการระยะเวลาดำเนินการในแต่ละแผนให้สอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดความมั่นคงและความสมดุลด้านพลังงานของประเทศ โดยแผนดังกล่าวทั้ง 5 แผน ได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และปัจจุบันแผนทั้งหมดได้ดำเนินการจัดทำ Action Plan และดำเนินการตามแผน เพื่อให้เป็นรูปธรรมตามกรอบเวลาที่วางไว้
สำหรับแผนบูรณาการพลังงานระยะยาว 5 แผน ประกอบด้วย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย หรือ PDP 2015 ซึ่งมีเป้าหมายในด้านต่างๆ คือ ด้านความมั่นคง ลดการใช้ก๊าซเพื่อผลิตไฟฟ้าลงเหลือไม่เกิน 40% ในปี 2579 เพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทน รวมถึงเชื้อเพลิงที่ใช้เทคโนโลยีสะอาด ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และกำหนดกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองไม่ต่ำกว่า 15% ของปริมาณความต้องการไฟฟ้าสูงสุด ในด้านเศรษฐกิจ ได้กำหนดเป้าหมายให้มีค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง สำหรับด้านสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปล่อย CO2 ลงจากปัจจุบัน 37% ในปี 2579
พล.อ.ณัฐติพล กล่าวต่อว่า สำหรับแผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP 2015) นั้น จะมีการเพิ่มสัดส่วนการลดใช้พลังงานเป็น 30% ด้วยมาตรการบังคับในกลุ่มโรงงาน อาคาร และอาคารภาครัฐ เช่น เก็บค่าธรรมเนียมพิเศษอาคารที่ใช้ไฟฟ้ามากเกินมาตรฐานที่กำหนด กำหนดให้อาคารสร้างใหม่ต้องคำนึงถึงการใช้พลังงานต่อพื้นที่ เป็นต้น ส่วนแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP 2015) กระทรวงพลังงานได้ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็น 30% ในปี 2579 เพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และส่งเสริมการผลิตและการใช้ไบโอดีเซล และ เอทานอล
ทั้งนี้ ในการจัดทำแผนบูรณาการพลังงานระยะยาวนั้น ทางกระทรวงพลังงานได้ดำเนินจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ Oil Plan 2015 ขึ้นเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยมีเป้าหมายเพื่อทยอยปรับลดประเภทน้ำมันเบนซินให้มีความเหมาะสม ส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพ และ NGV สำหรับรถสาธารณะ เป็นต้น และแผนสุดท้าย แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ หรือ Gas Plan 2015 กำหนดเป้าหมายบริหารจัดการการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ให้เกิดการแข่งขัน เพิ่มจำนวนผู้จัดหาและจำหน่าย เปิดโอกาสให้บุคคลที่สามสามารถใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานี LNG กำกับดูแลการจัดหา LNG ทั้งในระยะสั้น/ระยะยาว เพื่อให้เกิดการแข่งขันเสรีรวมถึงการรองรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติให้มีเพียงพอในอนาคตต่อไป