ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.54/56 แข็งค่าจากช่วงเช้า รับข่าวจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 2, 2016 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.54/56 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาด
ที่ระดับ 35.62/63 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากตลาดคาดการณ์เรื่องที่จีนอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มเติม ภายหลังจากที่จีนได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนตัวลง ซึ่งหากจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ก็ย่อมจะส่งผลดี ต่อเศรษฐกิจของประเทศอื่นในภูมิภาคตามมาด้วย

"ตลาดมองว่าจีนอาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น เศรษฐกิจในภูมิภาคก็น่าจะดีตามด้วย" นัก
บริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50 - 35.70 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.31/35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 114.00 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.0863/0867 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,365.31 เพิ่มขึ้น 18.36 จุด (+1.36%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 68,861 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 3,587.23 ลบ.(SET+MAI)
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อปีนี้โต 5-6% จาก 4.7%ในปีก่อน ขณะที่จะดูแลหนี้ที่ไม่ก่อให้
เกิดรายได้ (NPL) ไม่ให้เกิน 2.5% แม้ว่าจะสูงขึ้นจากปีก่อน
  • กระทรวงพลังงานได้ดำเนินการวางกรอบแผนพลังงานในภาพรวมใหม่ โดยยึดหลักการบูรณาการแผนงานที่มีอยู่เข้า
ด้วยกัน และยึดแนวทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555– 2559) เป็นหลัก รวมถึงบูรณาการ
ระยะเวลาดำเนินการในแต่ละแผนให้สอดคล้องกัน เพื่อให้เกิดความมั่นคงและความสมดุลด้านพลังงานของประเทศ โดยแผนดังกล่าว
ทั้ง 5 แผน ได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก
รัฐมนตรี เป็นประธาน และปัจจุบันแผนทั้งหมดได้ดำเนินการจัดทำ Action Plan และดำเนินการตามแผน เพื่อให้เป็นรูปธรรมตาม
กรอบเวลาที่วางไว้
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีน ลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ"
โดยมูดี้ส์ระบุถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับศักยภาพของทางการจีนในปฏิรูปเศรษฐกิจ รวมทั้งหนี้สินของรัฐบาลที่สูงขึ้น และทุนสำรองเงิน
ตราต่างประเทศที่ลดลง
  • สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงดูมีแนวโน้มน่าวิตก
แม้ว่าในอนาคตรัฐบาลญี่ปุ่นอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม เนื่องจากแต่เดิมญี่ปุ่นก็มีปัญหาด้านหนี้สินอยู่แล้ว S&P ระบุว่า ความ
พยายามของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และยุติภาวะเงินฝืด ไม่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า สถานะ
การคลังของญี่ปุ่นถือว่าย่ำแย่ที่สุดในชาติอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยมีหนี้สาธารณะสูงกว่า 200% ของ GDP
  • คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เตรียมลงมติในการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ต่อเกาหลีเหนือในวันนี้
เพื่อตอบโต้การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด มาตรการครั้งนี้จะมีการเพิ่มการระงับการส่งออกเชื้อเพลิงเครื่อง
บิน รวมไปถึงเชื้อเพลิงจรวด พร้อมทั้งจะมีการเรียกตรวจสอบสินค้าที่เดินทางผ่านหรือเดินทางมาจากเกาหลีเหนือ
  • สัปดาห์นี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ.จาก ADP, รายงานสรุป

ภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (FED), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้

จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.พ., ข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือน

ม.ค. เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ