ส่วนความร่วมมือในการพัฒนาผู้ประกอบการขนาดย่อย ขนาดเล็ก และขนาดกลาง (เอ็มเอสเอ็มอี) นั้น อาเซียนได้หารือถึงแนวทางผลักดันให้ผู้ประกอบการเหล่านี้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น และยังหารือถึงการลดอุปสรรคเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทข้ามประเทศในอาเซียน เพราะปัจจุบันมีความล่าช้ามาก หากลดอุปสรรคลงได้ จะทำให้เกิดการขยายการค้าและลงทุนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ อาเซียนยังได้หารือถึงการจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ระหว่างอาเซียน กับคู่เจรจา 6 ประเทศ ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจะต้องสรุปผลการเจรจาภายในปี 59 โดยจะเชื่อมโยงเครือข่ายการผลิต การค้า การลงทุน การปรับกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้าให้สอดคล้องกัน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนของภาคเอกชนได้มากกว่าความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่อาเซียนกับคู่เจรจามีอยู่ในปัจจุบัน และเพื่อใช้เป็นกลไกแข่งขันกับความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)
สำหรับการผลักดันเศรษฐกิจ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ที่ประชุมได้ให้ไทยและมาเลเซียช่วยเหลือและพัฒนาให้มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น เพราะอาเซียนมองว่า CLMV มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจดี แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยในเร็วๆ นี้ จะจัดประชุม CLMV-MT ฟอรั่ม (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม-มาเลเซีย และไทย) ซึ่งไทยจะเน้นการแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน