นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ซึ่งรับผิดชอบการช่วยเหลือภาคเอกชนให้ยกระดับ และเน้นงานส่งเสริม SME กล่าวว่า การประชุมครั้งหน้าจะเชิญนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธาน ซึ่งกลุ่ม SME จะผลักดันการจัดงานขนาดใหญ๋ 2 งาน ได้แก่ งาน matching SME ภายในเดือนมี.ค.นี้ และ งานสตาร์ทอัพ เอ็กซ์โป ในวันที่ 28 เม.ย.-1 พ.ค.59 รวมถึงจะเซ็น MOU ภาคีเครือข่ายภาครํลบและเอกชนกว่า 10 รายที่จะเข้ามาช่วยงานทางด้าน SME
นายกานต์ ตระกูลฮุน อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ๋ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ซึ่งรับผิดชอบด้านนวัตกรรมและการเพิ่มประสิทธิภาพ ระบุว่า ที่ประชุมมีแนวคิดการจัดตั้งคอนซอร์เตียม ภายใต้แพลทฟอร์มด้านเทคโนโลยีของบริษัทเอกชนที่มองว่าสามารถนำไปต่อยอดในอนาคตได้ และนำเทคโนโลยีมีความโดดเด่นแต่ละบริษัทมาทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเพิ่ม value chain แผนงานนี้จะต้องมีความชัดเจนในการประชุมครั้งต่อไป
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้หาทางส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุนในด้านนวัตกรรมมากขึ้น รวมถึงประชาสัมพันธ์ โน้มน้าวให้เอกชนรายใหญ่รับทราบสิทธิประโยชน์ด้านภาษีหากจะมีการลงทุนด้านนวตกรรมให้มากขึ้น รวมถึงจะมีการเดินหน้าจดทะเบียนด้านสิทธิบัตรต่าง ๆ ต่อไป
ขณะที่นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ซึ่งรับผิดชอบด้านการพัฒนาการลงทุนและด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ กล่าวว่า ในกลุ่มนี้จะเน้นเรื่องการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางของกลุ่ม CLMV ได้ รวมถึงยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นแพลทฟอร์มใหม่ ๆ ที่มีความทันสมัย เน้นการทำงาน 4 ด้าน เน้นการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความสามารถการแข่งขัน และดึงดูการลงทุน
ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ (SITHAI) ซึ่งรับผิดชอบด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนต่างประเทศ ระบุว่า แม้ตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ม.ค.59 จะติดลบถึง 8.9% แต่เมื่อเทียบกับต่างประเทศแล้ว ไทยถือว่ายังดีกว่าอีกหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนคาดการณ์ว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นมาช่วงครึ่งปีหลัง และหวังว่าจะทำให้การส่งออกเติบโตได้ 2-5% ซึ่งจะมีการทำงานในแต่ละด้าน ทั้งกลุ่มงานในการขับเคลื่อนการส่งออก เดินหน้าโครงการไทยแลนด์ทีม
นอกจากนั้นจะผลักดันการค้าชายแดนให้เพิ่มมากขึ้นด้วยการปลดล็อคอุปสรรคต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการของไทยไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น พร้อมทั้งจะรวบรวมแหล่งข้อมูลความรู้ที่จะเป็นประโยชน์กับงานด้านการส่งออก ซึ่งจะทำงานร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนรายอื่น ๆ ด้วย
นายอิสสระ ว่องกุศลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มน้ำตาลมิตรผล ในฐานะประธานกรรมการหอการค้าไทย ดูแลด้านการพัฒนาเกษตรสมัยใหม่ โดยจะมีการพัฒนาให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อนำไปต่อยอด และจะเข้าไปช่วยในเรื่องของการหาตลาด แต่เกษตรกรต้องสามารถลดต้นทุนการผลิตของตัวเองให้ได้ ซึ่งภาคเอกชนจะเข้าไปช่วยในการอบรม ส่งเสริมให้เกษตรกรสามารถประกอบธูรกิจให้กับตัวเองได้ ในรูปแบบ smart SME
และ นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รับผิดชอบดูแลงานด้านการศึกษา จะเน้นการพัฒนาผู้นำที่มีศักยภาพ โดยเอกชนจะเข้าไปร่วมติดตามและพัฒนาด้านการศึกษา ซึ่งจะทำงานเบื้องต้นใน 3,300 โรงเรียนใน 7,400 ตำบล พร้อมทั้งส่งเสริมและผลักดันกระบวนการศึกษาให้มีคุณภาพสูงขึ้น นำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้ามาช่วยส่งเสริมด้านการศึกษา รวมถึงต้องเพิ่มศักยภาพของแต่ละโรงเรียนที่จะต้องมีแผนปฏิบัติงานด้านชัดเจน