"เรื่องนี้ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาปรับเพิ่มเงื่อนไข โดยให้มีการเขียนกำกับเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมของโครงการลงไปว่าจะพิจารณาการให้ความคุ้มครองเป็นรายกรณีหากไม่มีการประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ หรือพื้นที่ที่ประสบปัญหาต่อการเพาะปลูก เพราะปีที่ผ่านมามีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหลายคนได้รับผลกระทบในส่วนนี้ โดยคาดว่าจะสามารถเสนอให้ ครม. พิจารณาได้ในเดือนนี้" นายลักษณ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวคิดที่จะยกระดับโครงการประกันภัยพืชผลออกไปสู่พืชชนิดอื่นๆ ด้วย เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงในทุกส่วนของภาคเกษตร ซึ่งกำลังศึกษาในรายละเอียดอยู่ พร้อมทั้งมีแผนจะยกระดับโครงการดังกล่าวให้เป็นโครงการที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยการออกเป็นกฎหมาย เพื่อให้มีการวางกรอบแนวทางการทำงานที่ชัดเจนและมีเสถียรภาพมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ดี โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2559 มีเป้าหมายขยายพื้นที่ประกันภัยข้าวนาปีเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านไร่ และคาดว่าจะสามารถดึงเกษตรกรเข้าร่วมโครงการได้อย่างน้อย 2 แสนราย เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 9.2 หมื่นราย พื้นที่ 1.51 ล้านไร่ โดยเป็นการคุ้มครองภัย 7 ประเภท คือ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือไต้ฝุ่น อากาศหนาว ลูกเห็บ ไฟไหม้ ศัตรูพืชและโรคระบาด