นอกจากนี้ การฝืนกรีดยางในช่วงผลัดใบหรือแตกใบอ่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้นยางไม่สามารถสังเคราะห์แสงสร้างอาหารได้เต็มที่ ส่งผลให้ต้นยางไม่สมบูรณ์และทรมานต้นยาง อาจทำให้ต้นยางเกิดอาการเปลือกแห้งหรือกรีดแล้วไม่มีน้ำยาง ในระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้า ดังนั้นเกษตรกรชาวสวนยางควรหยุดกรีดยางในช่วงนี้ เพื่อเป็นการพักต้นยางพาราให้สามารถสะสมอาหารไปหล่อเลี้ยงใบอ่อนเพื่อสร้างความเจริญเติบโต และใส่ปุ๋ยบำรุงต้นยาง ซึ่งชาวสวนยางสามารถเริ่มกรีดได้อีกครั้งในช่วงที่ใบยางที่แตกใหม่เจริญเต็มที่และเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม
"ช่วงที่ยางผลัดใบ เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางได้ ควรเลือกทำอาชีพเสริมอื่นๆ โดยใช้เนื้อที่ว่างที่มีอยู่ในสวนยาง หรือเวลาว่างช่วงพักกรีด ประกอบอาชีพเสริมต่างๆ ตามถนัด เพื่อสร้างรายได้เสริม อาทิ ปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อาทิ มะละกอ ฟักทอง พืชตระกูลถั่วต่างๆ หรือเลี้ยงสัตว์ที่สามารถเลี้ยงร่วมสวนยางได้ เช่น จิ้งหรีด ผึ้ง เป็นต้น การปลูกผลไม้ที่ให้ผลผลิตเร็วต่างๆ เพื่อการบริโภคในครัวเรือนสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ และเป็นการสร้างรายได้ขณะหยุดพักกรีดยางได้อีกทางหนึ่ง พี่น้องชาวสวนยางสามารถขอคำแนะนำรวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่สนใจได้ที่การยางแห่งประเทศไทยทุกพื้นที่ใกล้บ้าน" นายเชาว์ กล่าว