ภาวะตลาดเงินบาท: แข็งค่าแตะ 35.08 ก่อนปิดที่ 35.15 จากเงินไหลเข้าหลัง ECB ลดดอกเบี้ย-เพิ่ม QE

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 11, 2016 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 35.15 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิดตลาดที่ 35.21 บาท/
ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 38.08-35.22 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากผลประชุมของ
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกอบกับมีเงินทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรเป็นจำนวนมาก

"วันนี้บาทค่อนข้างผ้นผวน ระหว่างวันลงไปแข็งสุดในรอบ 5 เดือนที่ 35.08 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการประชุม ECB และต่างชาติเข้ามาซื้อในตลาดพันธบัตรมากถึง 1.5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งสัปดาห์ซื้อไป 4.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ค่าเงินภูมิภาค กลับมาแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 34.90-35.30 บาท/ดอลลาร์

"สัปดาห์หน้าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าหลุด 35.00 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.84 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.28 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1105 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1181 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,393.41 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด, +1.04% มูลค่าการซื้อขาย 49,374.08 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 161.11 ล้านบาท (SET+MAI)
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ตามที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
นั้นไม่น่าจะมีผลกระทบต่อไทยมากนัก ส่วนที่จะมีผลทำให้เกิดเงินทุนไหลเข้าไทยและในภูมิภาคมากขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ดี
เห็นว่าประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากกว่าหากเป็นการตัดสินใจดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
  • นายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง เชื่อว่า การที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง ซึ่งมีผล
ให้อัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรเข้าสู่ระดับ 0% และลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ที่ฝากไว้กับ ECB ลงสู่ระดับ -0.4% พร้อมทั้ง
เพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากเดิมที่ 6 หมื่นล้านยูโร/
เดือนนั้น ถือว่าเป็นยาแรงที่เกินความคาดหมายของหลายฝ่าย ซึ่ง ECB ต้องการนำมาใช้เพื่อหวังว่าจะช่วยให้เงินเฟ้อและเศรษฐกิจ
ในยูโรโซนฟื้นตัวขึ้น ซึ่งตนกลับมองว่ามาตรการนี้ไม่ได้ช่วยทำให้เม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจที่แท้จริง
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเห็นเงินบาทแข็งค่าทดสอบแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาที่ 35.00
บาทต่อดอลลาร์ฯ ได้ในระยะสั้น ภายหลังจากประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่นำไปสู่กระแสเงินทุนไหลเข้า
ทางฝั่งเอเชียอย่างต่อเนื่อง พร้อมแนะภาคธุรกิจบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) แนะจับตาดูการแข็งค่าของเงินบาทช่วงสั้น หากค่า
เงินบาทแข็งค่าเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านอาจเป็นแรงกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้
  • นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังการประชุมคณะทำงาน Doing Business ว่า
กระทรวงการคลังได้ประสานการทำงานร่วมกันกับภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพื่อให้การทำธุรกิจของนักลงทุนสะดวกมากขึ้น ซึ่ง
เป็นการดำเนินการตามกรอบการทำงานของธนาคารโลกที่เสนอมา 8-9 ขั้นตอน โดยเฉพาะการแก้ไขกฎหมาย และลดขั้นตอนต่างๆ
ในการทำธุรกรรมของเอกชนให้แข่งขันได้มากขึ้น หากไทยสามารถแก้ไขได้ดีใน 1 ด้าน อาจทำให้ไทยปรับขึ้นติดอันดับ 1 ใน 30 ได้
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองทิศทางตลาดรถยนต์ในประเทศปี 59 ยังอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงสูง โดยอาจหดตัวลดลงได้
ถึง 5-10% หรือคิดเป็นจำนวนยอดขายรถยนต์ประมาณ 720,000-760,000 คัน โดยเฉพาะช่วงไตรมาสที่ 1 มีโอกาสหดตัวสูง
เนื่องจากมีการเร่งซื้อรถยนต์บางกลุ่มไปก่อนหน้าตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558
  • นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิด
เผยถึงสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปัจจุบันว่า ระดับหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงต่อเนื่อง และเป็นระดับใกล้เคียงกับประเทศ
ในภูมิภาค ได้แก่ มาเลเซียและสิงคโปร์ ซึ่งมีสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่ร้อยละ 88 และ 75 ตามลำดับ และถือว่าค่อนข้างต่ำ
เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว เช่น แคนาดา สหราชอาณาจักร และเดนมาร์ก เป็นต้น
  • นายสง ซิน ประธานสมาคมทองคำจีนของจีน (CGA) เปิดเผยว่า ประเทศและภูมิภาคต่างๆตามแนว
โครงการ "Belt and Road" มีแหล่งแร่ทองที่อุดมสมบูรณ์ ขณะที่จีนมีเทคโนโลยีการขุดทอง การทำเหมืองแร่ การสกัดแร่เหล็กและ
การผลิตเหล็กกล้า และผลประโยชน์ด้านความสามารถพิเศษ ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงเป็นส่วนเติมเต็มซึ่งกันและกันและมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่
ตลอดจนพื้นที่สำหรับความร่วมมือในการพัฒนาแหล่งทรัพยากรทองคำ
  • ธนาคารกลางจีนได้ปรับขึ้นอัตราอ้างอิงสกุลเงินหยวนรายวันสูงสุดในรอบ 4 เดือนในวันนี้ ส่งผลให้เงินหยวนแข็งค่า

ขึ้น ทั้งนี้ China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 2.22% แตะที่ 6.4905

หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเช้าวันนี้ ขณะที่ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาไทย เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.32% แตะที่

6.4869 หยวนต่อดอลลาร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ