กรมปศุสัตว์ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยของอาหารสูงมาก เน้นการผลิตเทียบเท่ามาตรฐานโลก โดยมีมาตรการเข้มงวดในการตรวจสอบสารตกค้างจากยาปฏิชีวนะ และเชื้อดื้อยาตั้งแต่ฟาร์ม โรงเชือด และโรงงานแปรรูป เพื่อให้การผลิตและแปรรูปเนื้อไก่เป็นไปตามหลักสุขอนามัยที่ดี และต้องผ่านการรับรองว่าปลอดภัย ไม่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรค สารตกค้าง จากกรมปศุสัตว์ก่อนส่งต่อถึงผู้จำหน่ายและผู้บริโภค และมีมาตรฐานเดียวกับไก่เนื้อที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) และญี่ปุ่น
“ผู้บริโภคไทยทุกคนสบายใจได้ว่า ร้านฟาสต์ฟู้ดชั้นนำของไทยใช้เนื้อไก่ที่มาจากโรงงานที่กรมปศุสัตว์รับรอง มีกระบวนการผลิตและการตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานส่งออก ซึ่งกล่าวได้ว่า คนไทยบริโภคเนื้อไก่คุณภาพเดียวกับคนญี่ปุ่นและคนยุโรป" นสพ.สรวิศกล่าว
นสพ.สรวิศยังกล่าวต่อว่า ภาคอุตสาหกรรมไก่เนื้อของไทยตั้งแต่ฟาร์มจนถึงโรงงานแปรรูปมีมาตรฐานการผลิตเทียบเท่ามาตรฐานโลก เป็นที่ยอมรับของประเทศคู่ค้าไก่เนื้อที่สำคัญของไทยอย่างอียู ญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง ที่มีความเข้มงวดเรื่องความปลอดภัยสูงและมีข้อตกลงร่วมกันในระบบการป้องกันการใช้ยาปฏิชีวนะ และการตรวจสอบสารตกค้าง โดยเฉพาะอียูมีกฎหมายห้ามการใช้ยาปฏิชีวนะเร่งการเจริญเติบโตในไก่เนื้อเพื่อการบริโภคโดยเด็ดขาดร่วม 10 ปีมาแล้ว ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกไก่เนื้อรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก สามารถนำเงินตราเข้าประเทศในแต่ละปีสูงถึง 7-8 หมื่นล้านบาท
อนึ่ง การรณรงค์ในครั้งนี้มีต้นแบบจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศที่ยังมีการอนุญาตให้ใช้ยาปฏิชีวนะและสารเคมีต่างๆในอุตสาหกรรมเลี้ยงสัตว์อยู่ ซึ่งแตกต่างจากประเทศไทยที่มีระบบการป้องกันการใช้ยาปฏิชีวนะ และการตรวจสอบสารตกค้างและเชื้อดื้อยาอย่างเข้มงวด ส่งเสริมการผลิตเนื้อสัตว์ปลอดภัยตามมาตรฐานการรับรองของกรมปศุสัตว์ สามารถยืนยันได้ว่าเนื้อไก่ที่จำหน่ายในตลาดสด ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านอาหารชั้นนำได้มาตรฐานความปลอดภัย ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะเช่นเดียวกับเนื้อไก่ส่งออก