ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 6.62 แสนล้านบาท ขยายตัว 14.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศคาดว่าอยู่ที่ 4.56 แสนล้านบาท ขยายตัว 18.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา รายได้จากไทยเที่ยวไทยอยู่ที่ 2.06 แสนล้านบาท ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
และในไตรมาสแรก คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทั้งหมด จำนวน 8.94 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.3% โดยเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนจำนวน 2.51 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.4% นักท่องเที่ยวจากยุโรปจำนวน 2.09 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.3% และกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอาเซียนจำนวน 1.89 ล้านคน เพิ่มขึ้น 5.7%
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการท่องเที่ยวในประเทศปี 59 นี้ ประกอบด้วย 1.การเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่ 12 เมืองต้องห้ามพลาดพลัส โดยหวังจะให้นักท่องเที่ยวอยู่ในไทยนานขึ้น และเน้นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น, 2.การเพิ่มวันหยุดต่อเนื่องพิเศษซึ่งจะมี 2 ช่วงคือช่วงระหว่างวันที่ 5-8 พฤษภาคมและช่วง 16-20 กรกฎาคม ซึ่งทางกระทรวงไม่ได้กังวลว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเวลานั้นเพิ่มมากขึ้น ทางกระทรวงเตรียมจัดแคมเปญที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
3.จำนวนนักท่องเที่ยวที่เกินขีดความสามารถที่รองรับในช่วงเทศกาลสำคัญ ซึ่งในเรื่องนี้อยู่ระหว่างการบริหารจัดการและการดูแลนักท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ 4. ปัญหาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมโดยเฉพาะตามแนวปะการังต่างๆซึ่งทางกระทรวงกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติจะมีการทำงานร่วมกันและดูแลแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
5. การจับจ่ายใช้สอยลดลงซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย โดยทางกระทรวงจะมีการทำกิจกรรมและหาแนวทางในการกระตุ้นการใช้จ่ายให้มากขึ้น และ 6. การแข่งขันตลาดการท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่พยายามดึงนักท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะตลาดในประเทศอาเซียนด้วยกันเอง
ขณะที่ปัจจัยการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ประกอบด้วย 1.แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนหลังตรุษจีนจะมีการขยายตัวมากขึ้นโดยเฉพาะเมืองรองซึ่งจีนถือว่ามีการใช้จ่ายสูงกว่ามาตรฐานจากปกตินักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายประมาณ 5,072 บาทแต่จีนมีการใช้จ่ายถึง 5,800 บาทและแม้ว่าจีนจะประสบปัญหาเศรษฐกิจในประเทศแต่ก็เชื่อว่าจะไม่ส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยว ซึ่งไทยก็พร้อมจะเปิดตลาดใหม่หรือนำเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ๆเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีน 2. ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังอยู่ในช่วงชะลอตัว ส่งผลโดยตรงกับนักท่องเที่ยวในกลุ่มตะวันออกกลางแต่จากการติดตามเชื่อว่านักท่องเที่ยวจากกลุ่มนี้จะไม่ลดลง
3.ตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะส่งผลดีทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น 4.การเข้าประชาคมอาเซียนทำให้เกิดการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน
5.ข่าวสารการวางแผนการก่อการร้ายในประเทศ ซึ่งรัฐบาลยังคงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ และ 6. การแข่งขันในตลาดท่องเที่ยวเพื่อแย่งชิงนักท่องเที่ยวจากจีน จากข้อมูลประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการทำมาสเตอร์แพลนที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนอย่างเป็นรูปแบบ
นางกอบกาญจน์ กล่าวอีกว่า จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มตัว ไทยหวังจะเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆในกลุ่มอาเซียน และมองว่าตลาดอาเซียนจะเป็นตลาดที่สำคัญไปอีก 10 ปี ซึ่งทางกระทรวงมีแผนงานที่จะมีการเพิ่มเส้นทางการบินเชื่อมโยงกับเมืองสำคัญๆในกลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น มีการออกแคมเปญใหม่ๆ หรือจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น เช่น การจัดรูปแบบการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว การปั่นจักรยาน หรือจัดกิจกรรมในประเทศ โดยมีแนวคิดจะมีการจัดการประชุมซีอีโอฟอรั่ม อาเซียน คล้ายกับการประชุมดาวอส เป็นการประชุมของนักธุรกิจชั้นนำหรือนักธุรกิจรุ่นใหม่ของอาเซียน
โดยในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มอาเซียนมาเที่ยวไทย 7.8 ล้านคน ขยายตัว 10% โดยมีนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ลาว และสิงคโปร์เข้ามาเที่ยวในไทยมากสุดตามลำดับ มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย 28,000 บาทต่อหนึ่งทริป โดยเข้ามาซื้อสินค้า คือ เสื้อผ้า อาหารแห้ง เครื่องหนัง อัญมณี และเครื่องใช้ไฟฟ้า และจุดประสงค์ที่เข้ามาเที่ยวในไทย คือ เพื่อมาพักผ่อน ติดต่อธุรกิจ ช้อปปิ้ง และประชุม