นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สนพ.ได้ดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... ขึ้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในบทบาทหน้าที่และการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประชาชนทั่วไป ได้มีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ ดังกล่าว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ดังนั้น เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและนำความคิดเห็นที่ได้รับมาประกอบการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ ให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์ ก่อนนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทางสนพ. จึงเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ได้ที่เว็บไซต์ www.eppo.go.th ตั้งแต่วันที่ 14-28 มีนาคม 2559 นี้
ทั้งนี้ การยกร่างพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. รักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีพของประชาชน ในกรณีเกิดวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจ 2. สนับสนุนให้เชื้อเพลิงชีวภาพให้มีส่วนต่างราคาที่สามารถแข่งขันกับน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3. บรรเทาผลกระทบจากการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับผู้มีรายได้น้อยและผู้ด้อยโอกาส
4. สนับสนุนการลงทุนการสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ สำหรับป้องกันภาวการณ์ขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อนำมาใช้กรณีวิกฤตน้ำมันเชื้อเพลิง และเพื่อประโยชน์ความมั่นคงทางด้านพลังงาน และ 5. สนับสนุนการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานน้ำมันเชื้อเพลิงในกิจการของรัฐ สำหรับความมั่นคงทางด้านพลังงาน