รมว.พาณิชย์ เผย Maersk Group สนใจเข้ามาลงทุนธุรกิจด้านโลจิสติกส์ในไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 23, 2016 12:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เผยผลหารือกับนายมิเคล เหมนิธิ วินเธอร์ เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย และผู้บริหารเมอส์กกรุ๊ปว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันที่จะร่วมมือด้านการค้าการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์ ซึ่งเดนมาร์กเล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ประกอบกับรัฐบาลไทยมีนโยบายให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจนี้อย่างมาก

สำหรับไทยและเดนมาร์กมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาอย่างยาวนานทั้งในด้านการค้าและด้านการลงทุน โดยเดนมาร์กเป็นประเทศขนาดเล็กแต่มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรม มีเทคโนโลยีขั้นสูง ในปี 2558 World Bank จัดให้เดนมาร์กเป็นประเทศน่าลงทุนมากที่สุดอันดับ 1 ของยุโรป และอันดับ 4 ของโลก มีข้อได้เปรียบทางธุรกิจด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งการคมนาคมขนส่ง ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การเงินการธนาคาร ประกอบกับได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการพัฒนาธุรกิจอย่างอิสระ ไม่กีดกันการลงทุนจากต่างชาติ ซึ่งให้โอกาสเท่าเทียมกันกับนักลงทุนเดนมาร์ก ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของนักลงทุนไทยที่จะสามารถใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบดังกล่าวเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าการลงทุนกับประเทศตอนเหนือของยุโรป

ทั้งนี้ประเทศแถบสแกนดิเนเวียต่างก็ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน ความปลอดภัยด้านสุขภาพ และสภาวะโลกร้อนเป็นอย่างมาก ทำให้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สินค้าออร์แกนนิก รวมถึงสินค้าและอาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง ผู้ผลิตผู้ส่งออกไทยจึงควรศึกษาโอกาสทางการค้าเพื่อหาลู่ทางขยายการส่งออกให้มากขึ้น

ส่วนการลงทุนของเดนมาร์กในไทย ส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมขนาดกลาง ซึ่งเดนมาร์กมีความชำนาญและเชี่ยวชาญ ในช่วงปี 2556-2558 มีโครงการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 28 โครงการ มูลค่ารวม 6,938 ล้านบาท เป็นอันดับ 3 จากสหภาพยุโรป หนึ่งในบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยคือ Maersk Group ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ครอบคลุม 130 ประเทศ พนักงาน 89,000 คน มีรายได้ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 โดยธุรกิจในไทยได้แก่ Maersk Line (Thailand) Ltd. ตั้งเมื่อปี 2492 มีปริมาณขนส่งสินค้าจากไทยในปี 2557 ประมาณ 614,000 TEU หรือ ร้อยละ 10 ของปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือทั้งหมดของไทย

APM Terminals เป็นผู้ถือหุ้นหลักของ LCB1 ซึ่งได้รับสิทธิ์ในการบริหาร Terminal B1 ท่าเรือแหลมฉบัง ต่อมา LCB1 ได้ถือหุ้นในบริษัท LCMT Company Ltd. ซึ่งบริหาร Terminal Ao ทั้ง LCB1 และ LCMT ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI นอกจากนี้ยังเป็นผู้บริหาร Siam Shoreside Services Limited ซึ่งให้บริการ ณ สถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง ลาดกระบัง( ICD ลาดกระบัง) มีสัดส่วนร้อยละ 30 ของปริมาณการให้บริการทั้งหมดในปี 2557 อีกธุรกิจ คือ Damco Logistics (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งให้บริการด้านโลจิสติกส์ ทั้งการขนส่งทางอากาศ ทางทะเล คลังสินค้าและการกระจายสินค้า การให้คำปรึกษาและการบริหารระบบ Supply Chain รวมถึงบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง

รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า Maersk ให้ความสนใจกับประเทศไทยเป็นพิเศษ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของไทยที่มีความพร้อมด้านโลจิสติกส์ที่โดดเด่นในภูมิภาค ประกอบกับรัฐบาลมียุทธศาสตร์พัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่ชัดเจนรวมถึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมธุรกิจบริการโดยเฉพาะด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น แม้ Maersk จะมีสำนักงานใหญ่ในภูมิภาคเอเชียที่ฮ่องกง/สิงคโปร์ แต่ก็เล็งเห็นความสำคัญของไทย เนื่องจากมีภูมิประเทศที่สามารถเข้าถึงประเทศ CLMV ได้สะดวก และสามารถเชื่อมต่อด้าน inland พร้อมให้ความร่วมมือในการถ่ายทอดความรู้และนำเสนอแนวทางในการพัฒนาด้าน Trade Facilitation และการสร้างความสามารถทางการแข่งขันให้กับภาคโลจิสติกส์ของไทย

นอกจากนี้ Maersk มีแผนลงทุนสร้างท่าเรือใหม่ที่ไนจีเรียกับกาน่า แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทั้งสองประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ไทยให้ความสนใจในการขยายตลาดเช่นเดียวกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ