นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยถึง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาส 1/2559 ว่าอยู่ที่ 95 ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าปกติเล็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการที่มีฐานลูกค้าชาวไทย ซึ่งภาวะเศรษฐกิจไทยเป็นปัจจัยสำคัญต่อการประเมินสถานการณ์ของผู้ประกอบการ ในขณะที่ผู้ผระกอบการที่มีฐานลูกค้าชาวต่างชาติยังประเมินสถานการณ์ใกล้เคียงปกติที่ 101 เนื่องจากต้นปี 2559 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนพบว่ามีการเดินทางมาไทยปีละราวๆ 8 ล้านคน
ทั้งนี้ สทท.คาดว่าไตรมาส 1/2559 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 8.81 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.23% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2558 ส่วนในไตรมาส 2/2559 หากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.56% และคาดว่าในปี 2559 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 33.83 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.22% จากปี 2558 และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.95%
ขณะที่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่า จะมีเงินสะพัดราวๆ 500 ล้านบาท ขณะที่อัตราการเข้าพักช่วงเทศกาลสงกรานต์อยู่ที่ 80-90% จากปกติที่จะอยู่ประมาณ 60-70% โดยนักท่องเที่ยวยุโรปจะอยู่นานสุดประมาณ 9.5 วัน และมีค่าใช้จ่าย 7,000 บาท/หัว/วัน
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าภาวะการท่องเที่ยวในประเทศลดลงเมื่อเทียบกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ สาเหตุหลักมาจาก ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศที่ยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนักแม้ว่าภาครัฐจะมีมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนของภาครัฐและเอกชน หรือมาตรการกระตุ้นต่างๆ แต่ยังไม่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงๆ ทำให้นักท่องเที่ยวอาจจะไม่สะดวกในเรื่องของงบประมาณค่าใช้จ่าย
พร้อมยอมรับว่านักท่องเที่ยวบางคนมีทัศนคติที่ไม่ดีต่องการท่องเที่ยวในประเทศ ชื่นชอบการท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่า ซึ่งตรงนี้ยอมรับว่าการออกมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยอาจจะช่วยได้บ้างในระยะสั้น แต่การปลูกจิตสำนึก หรือการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้น่าสนใจมากขึ้น รวมทั้งมาตรการความปลอดภัยก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยว
ประธาน สทท. ระบุว่า ภาคการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายภาครัฐถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2559 ในด้านการส่งเสริมจากภาครัฐ ผู้ประกอบการยังต้องการแรงหนุนโดยการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว ทั้งตลาดท่องเที่ยวในประเทศและตลาดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจซบเซา
ทั้งนี้ สทท.ได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐดังนี้ การใช้มาตรการลดหย่อนภาษีควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับและเงื่อนไขอย่างชัดเจน, การใช้มาตรการประกาศวันหยุดเพิ่มเติมเป็นวันหยุดยาวต้องทำด้วยความระมัดระวัง รวมถึงการเฝ้าระวังผลกระทบในระดับพื้นที่ที่เกิดขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการต่างชาติที่มาทำธุรกิจในประเทศไทย ขณะเดียวกันต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมโดยเฉพาะด้านคมนาคม และพัมนาคุณภาพมาตรฐานของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวขนาดกลางและขนาดย่อมให้มีมาตรฐานทั้งด้านแหล่งท่องเที่ยว บริการ และความปลอดภัย โดยภาครัฐควรสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการในการลงทุนเพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการบริการของธุรกิจตนเองให้มากขึ้น
สำหรับเหตุการณ์ระเบิดที่บรัสเซลล์ประเทศเบลเยียม ณ ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบ แต่เบื้องต้นคาดว่าคงจะมีผลทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางไปยุโรป หรือชะลอไปเบลเยียม แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางได้โดยเลือกที่จะไปท่องเที่ยวที่อื่นที่ไม่มีความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางมาไทยยังมีแนวโน้มเป็นบวก ขณะที่นักท่องเที่ยวเบลเยียมเดินทางมาไทยคิดเป็น 4-5% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางมาไทย
ส่วนเงินบาทที่แข็งค่า เมื่อเทียบกับอาเซียนด้วยกันยังไม่เห็นผลกระทบเชิงลบที่นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางท่องเที่ยว เพราะขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ก็ค่อนข้างแข็งตัวขึ้นซึ่งปัจจัยนี้น่าจะเป็นบวกที่จะทำให้นักท่องเที่ยวโซนยุโรปเดินทางเข้ามาเพราะแม้ค่าเงินยูโรจะอ่อนค่าลงไปบ้างก็ตาม