ทั้งนี้ การประชุมสัมมนาฯ ครั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะได้รับทราบถึงประสบการณ์จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิม่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฟื้นฟู ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมประชุมจะได้ร่วมกันถอดบทเรียนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแนวทางการป้องกันในอนาคต นอกจากนี้จะได้ร่วมกันศึกษาและรับทราบถึงนวัตกรรมรูปแบบใหม่ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์หรือ เทคโนโลยี Small Modular Reactor (SMR) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ในความสนใจของโลกในขณะนี้
นายสราวุธ กล่าวเพิ่มว่า นโยบายการส่งเสริมเชื้อเพลิงทางเลือกเพื่อผลิตไฟฟ้าในอนาคต โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ ยังคงอยู่ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP 2015) โดยจะมีการเข้าระบบของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายแผนฯ หรือประมาณปี 2579 ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานได้อยู่ระหว่างเตรียมตัวในการศึกษาอย่างรอบด้าน พร้อมกับการสร้างความรับรู้ความเข้าใจกับสาธารณะ โดยมีกรอบความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้ ASEAN Economic Community’s Nuclear Education ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญให้เกิดการพัฒนาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในภูมิภาคนี้
"พลังงานนิวเคลียร์ ยังถือเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกผลิตไฟฟ้าในอนาคตที่สำคัญของไทย และตามแผน PDP 2015 แม้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะเกิดช่วงปลายแผน หรืออีก 20 ปีข้างหน้า แต่กระทรวงพลังงานจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด เพราะเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ถือเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่จะช่วยทำให้ค่าไฟฟ้าในอนาคตไม่ผันผวน และยังมีส่วนสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย"นายสราวุธ กล่าว