นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.ได้ดำเนิน
โครงการช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการ “ชำระดี มีคืน” โดยธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มา
ชำระหนี้ธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2558 ถึง 31 มีนาคม 2559 โดยคืนเงินดอกเบี้ยร้อยละ 3-5 ตามชั้นลูกค้า โดยลูกค้าที่มี
ประวัติชำระหนี้ดี 3 ปีติดต่อกันจะได้รับดอกเบี้ยคืน 5% ลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ที่ดี 2 ปีติดต่อกันขึ้นไป จะได้รับดอกเบี้ยคืน 4% และ
สำหรับลูกค้าที่มีประวัติชำระหนี้ได้ตามกำหนดติดต่อกัน 1 ปี หรือเป็นลูกค้าใหม่จะได้รับดอกเบี้ยคืน 3%
ทั้งนี้ ธนาคารจ่ายดอกเบี้ยคืนให้กับเกษตรกรลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดี โดยโอนเงินให้กับเกษตรกรลูกค้าไปแล้ว 2 ครั้ง
ครั้งแรก โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากให้กับเกษตรกรลูกค้า จำนวน 1.7 ล้านราย เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558 เป็นจำนวนเงินรวมทั้ง
สิ้น 818 ล้านบาท ครั้งที่ 2 โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากให้กับเกษตรกรลูกค้า จำนวน 1.2 ล้านราย เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2559
เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 485 ล้านบาท และในครั้งที่ 3 เกษตรกรที่นำเงินมาชำระคืนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ถึง วันที่ 31
มีนาคม 2559 จะได้รับเงินโอนคืนเข้าบัญชีภายในวันที่ 11 เมษายน 2559
โดยคาดว่าเกษตรกรจะได้ประโยชน์จากโครงการชำระดีมีคืนในครั้งที่ 3 นี้ จำนวนประมาณ 1 ล้านราย คิดเป็นจำนวนเงิน
ประมาณ 1,500 ล้านบาท ทั้งนี้ ในภาพรวมโครงการคาดว่า ธ.ก.ส. จ่ายดอกเบี้ยคืนให้กับเกษตรกรลูกค้าที่มีวินัยทางการเงินที่ดีใน
โครงการ “ชำระดี มีคืน” เป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,803 ล้านบาท
สำหรับเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งและได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ธนาคารได้เร่งบรรเทาความเดือดร้อนของ
เกษตรกร โดยส่งพนักงานลงพื้นที่เยี่ยมเยียนเพื่อให้กำลังใจ สอบถามปัญหาและกำหนดแนวทางแก้ไขร่วมกัน พร้อมทั้งจะพิจารณา
ขยายระยะเวลาในการชำระหนี้เดิมให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งออกไปอีกไม่เกิน 24 เดือนด้วย นอกจากนั้น ในพื้นที่วิกฤติภัย
แล้งในเขตชลประทานลุ่มน้ำเจ้าพระยา 22 จังหวัด กรณีเกษตรกรรายย่อยที่มีหนี้เงินกู้ไม่เกิน 500,000 บาท ผลผลิตได้รับความเสีย
หายหรือทำให้มีรายได้ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 จากรายได้ปกติ ธนาคารจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี
เพิ่มเติมด้วย ซึ่งคาดว่าเกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการดังกล่าวทั้งสิ้น 415,176 ราย จำนวนสินเชื่อ 59,832 ล้านบาท
จำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับการลดทั้งสิ้น 1,792 ล้านบาท
"เกษตรกรลูกค้าที่ประสบปัญหาภัยแล้งส่งผลกระทบต่อรายได้และการชำระหนี้ ธนาคารพร้อมจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ
อย่างเต็มที่ โดยสามารถติดต่อ ธ.ก.ส. ได้ทุกสาขาใกล้บ้านท่าน" นายลักษณ์ กล่าว