นายอดิศักดิ์ สุริยวนากุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่พัฒนา บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) เปิดเผยว่า EGATi ได้ดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนกับหลายโครงการในต่างประเทศ เพื่อจัดหาพลังงานไฟฟ้าส่งกลับเข้าประเทศไทย เพิ่มความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าในประเทศ รวมถึงขยายโอกาสการลงทุนทางธุรกิจทางด้านพลังงานไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง โดยโครงการที่มีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนกวางจิ จ.กวางจิ ประเทศเวียดนาม ซึ่งพื้นที่ของโครงการอยู่ในจุดยทธศาสตร์ในการพัฒนาความมั่นคงด้านพลังงานของเวียดนาม และยังเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลเวียดนามให้การสนับสนุน
โดยโครงการดังกล่าว EGATi ถือหุ้นร้อยละ 40 มีขนาดกำลังผลิต 1,200 เมกะวัตต์ ใช้ถ่านหินนำเข้าเป็นเชื้อเพลิง กำหนดจ่ายไฟเข้าระบบ ในปี 2565-2566 ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอรายงานการศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินที่มีกำลังผลิตเกินกว่า 500 เมกะวัตต์ จะต้องใช้เทคโนโลยี Utra-Supercritical Technology เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(Organisation for Economic Co-operation and Development - OECD) และมาตรฐานสากลของสถาบันการเงินเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและสังคมในการปล่อยเงินกู้กำหนดไว้
นอกจากนี้ยังลงทุนใน โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำเงี๊ยบ 1 ตั้งอยู่ที่แขวงบอลิคำไซของ สปป.ลาว ขนาดกำลังผลิต 289 เมกะวัตต์ โดย EGATi ถือหุ้นร้อยละ 30 ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างตัวเขื่อนหลัก และเขื่อนรอง คาดว่าจะจ่ายไฟเข้าระบบได้ในปี 2562
สำหรับการลงทุนในสหภาพเมียนมาร์ มี 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำสาละวินตอนบน (มายตง) ตั้งอยู่ที่เมืองมายตง รัฐฉาน สหภาพเมียนมาร์ ขนาดกำลังผลิต 7,000 เมกะวัตต์ EGATi ถือหุ้นร้อยละ 30 มีกำหนดจ่ายไฟเข้าระบบในปี 2570-2571 ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสมโครงการ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำฮัจยี ตั้งอยู่ในจังหวัดผาอัน รัฐคะหยิ่น สหภาพเมียนมาร์ บริเวณตอนใต้ของแม่น้ำสาละวิน ขนาดกำลังผลิตรวม 1,360 เมกะวัตต์ ซึ่งผู้ร่วมพัฒนาโครงการได้ชะลอการศึกษาโครงการออกไป เพื่อรอความชัดเจนจากรัฐบาลชุดใหม่ของเมียนมา และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนมะริด ตั้งอยู่ที่เมืองมะริด ในเขตตะนาวศรี ประเทศเมียนมาร์ ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินนำเข้า ขนาดกำลังผลิต 1,800-2,500 เมกะวัตต์ มีแผนจ่ายไฟเข้าระบบในปี 2564-2565 โดยโครงการได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมโครงการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอพิจารณาอนุมัติรายงานความเหมาะสมจากรัฐบาลเมียนมาร์แล้วจะดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมต่อไป
นายอดิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า EGATi ยังมีการดำเนินธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องเพื่อเป็นการใช้ศักยภาพทีมีอยู่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้แก่ ธุรกิจโครงข่ายโทรคมนาคม ในการเชื่อมโยงระบบกับ สปป.ลาว และสหภาพเมียนมาร์ รวมถึงช่องทางการลงทุนธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งนอกจากจะสร้างรายได้ให้กับ EGATi แล้วยังเป็นการสร้างความมั่นคงด้านเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าของบริษัท และโรงไฟฟ้าของกฟผ. อีกด้วย