โฆษกรัฐบาล ชี้แจงมาตรการภาษีหนุนท่องเที่ยว-กระตุ้นใช้จ่ายช่วงสงกรานต์

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 29, 2016 17:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยได้เสนอมา 2 มาตรการ ได้แก่ 1.ขยายเวลามาตรการท่องเที่ยวและสัมมนาในประเทศ แบ่งเป็นส่วนที่หนึ่ง บริษัทและนิติบุคคล สามารถหักรายจ่ายได้ 2 เท่า จากค่าสัมมนา ห้องพัก และกรณีที่สอง ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าที่พัก โรงแรมมาลดภาษีได้ 1 เท่า ทั้งหมดวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท มีผล 1 ม.ค.-31 ธ.ค. 59

สำหรับมาตรการที่ 2 เป็นมาตรการเฉพาะช่วงสงกรานต์ 9-17 เม.ย.59 สามารถยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อีก 1 เท่า กิน ท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรมได้อีก 15,000 บาท

"ยกตัวอย่าง 2 กรณี หากท่องเที่ยวในมี.ค.ลดหย่อนไป 15,000 บาท และช่วงสงกรานต์ 9-17 เม.ย.อีก 15,000 สามารถนำไปลดหย่อนได้ 3 หมื่น 2 เด้งเลย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย และการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ดีขึ้น"โฆษกรัฐบาล กล่าว

พร้อมย้ำว่า ทางร้านค้าและโรงแรมต้องจดทะเบียนภาษีให้ถูกต้องเพื่อจะได้รับสิทธินี้

พล.ต.สรรเสริญ เปิดเผยว่าจากมาตรการช้อปช่วยชาติในช่วงส่งท้ายปีที่ผ่านมา ซึ่งเปิดให้ผู้เสียภาษีนำใบเสร็จจากการซื้อสินค้าและบริการมาหักลดหย่อนภาษีได้ 15,000 บาทต่อคนถือเป็นมาตรการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยสร้างบรรยากาศการค้าขายให้คึกคัก กระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม และมีผลทางจิตวิทยาในการสร้างความสุขให้กับพี่น้องประชาชน

ข้อมูลจากกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง พบว่า ณ วันที่ 21 มีนาคม มีผู้เสียภาษีที่ใช้สิทธิจากมาตรการดังกล่าวจำนวน 630,581 ราย โดยมีมูลค่าการซื้อสินค้าและบริการจำนวน 5,756 ล้านบาท หรือใช้จ่ายเฉลี่ยรายละ 9,129 บาท ทั้งนี้คาดว่ายังมีผู้เสียภาษีอีกจำนวนมากที่ใช้สิทธิจากมาตรการดังกล่าว แต่ยังมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ เนื่องจากการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้มีกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. และสำหรับผู้ที่ยื่นทางอินเทอร์เน็ตสามารถยื่นแบบได้ถึงวันที่ 8 เม.ย.59

"มาตรการนี้ถือว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจพิจารณานำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะที่นำค่าใช้จ่ายของบุคคลที่มีส่วนช่วยการหมุนเวียนเศรษฐกืจภายในประเทศมาหักลดหย่อนภาษีกลับมาใช้อีกในช่วงเทศกาลหยุดยาว"พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการร้านค้าจดทะเบียนการค้าอย่างเป็นระบบ มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง เพื่อสามารถออกใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์ให้ลูกค้าได้ และจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ร่วมกัน โดยรัฐบาลได้ออกแนวปฏิบัติที่ผ่อนปรนในการจดทะเบียนการค้าแก่ผู้ประกอบกิจการทุกรายเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง ซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอรับคำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่รัฐได้ทุกพื้นที่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ