รมว.คลัง เตรียมเสนอครม.ภายใน 2-3 สัปดาห์เพื่อเปิดรับลงทะเบียน"คนจน"ผ่านแบงก์รัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 30, 2016 11:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติการเปิดรับลงทะบียนผู้มีรายได้น้อยผ่านธนาคารของรัฐภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ เบื้องต้นกำหนดเกณฑ์ผู้ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีรายได้น้อยจะต้องมีรายได้ต่ำกว่าค่าแรงขึ้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และมีเงินฝากในบัญชีของธนาคารไม่เกิน 3 หมื่นบาท ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ที่เข้าเกณฑ์ทั้งสิ้น 19 ล้านราย

ทั้งนี้ รัฐบาลจะนำข้อมูลดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับโครงการ National e-Payment ที่รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งจะนำไปใช้ร่วมกับข้อมูลของกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นเครื่องมือในการมอบสิทธิประโยชน์และความช่วยเหลือได้ตรงกลุ่ม

“แนวคิดคือจะมีการเปิดลงทะเบียนในครั้งแรกก่อน หลังจากนี้จะอัพเดทข้อมูลทุก ๆ ปี เพื่อยืนยันสถานะหากยังเป็นผู้เข้าเกณฑ์ที่ต้องได้รับความช่วยเหลือของรัฐบาลก็จะใช้ส่วนนี้เป็นข้อมูล รัฐบาลยืนยันว่าไม่ได้ต้องการให้มีผู้มีรายได้น้อยเพิ่มขึ้น อยากให้ลดลงมากกว่า แต่การเปิดลงทะเบียนและการอัพเดทข้อมูลครั้งนี้ก็จะกลายเป็นประโยชน์กับประชาชนและประเทศในอนาคต"นายอภิศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนแผน National e-Payment ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการ National e-Payment นั้น นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า โครงการระบบการชำระเงินแบบ Any ID ที่จะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนสามารถชำระเงินหรือโอนเงินผ่านบัตรประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น ขณะนี้มีความพร้อมและคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในเดือน ก.ค.59 เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการบริการทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และไม่มีบัญชีกับธนาคาร

สำหรับโครงการขยายการใช้บัตรนั้น เบื้องต้นตั้งเป้ากระจายเครื่องรับบัตรเครดิต/เดบิต (EDC) ทั่วประเทศเพิ่มเป็น 1 ล้านเครื่อง โดยในเฟสแรกกำหนดไว้ 5 แสนเครื่องเพื่อรองรับระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่รัฐบาลเร่งดำเนินการอยู่ ส่วนความคืบหน้าโครงการระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้กรมสรรพากรจะเปิดให้ประชาชนยื่นข้อมูลใบกำกับภาษีแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้ออกแบบเพื่อเปิดให้ใช้พร้อมกับระบบ Any ID ในช่วงเดือน ก.ค. นี้เช่นกัน

“รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมว่าอยากให้เร่งการดำเนินการให้เร็วขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้งบประมาณโดยเฉพาะงบประมาณที่เกิดจากการประมูล 4จี โดยอยากให้ใช้งบในส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศมากขึ้น ซึ่งเมื่อระบบนี้มีการใช้จริง ก็จะเป็นประโยชน์กับภาครัฐโดยเฉพาะในมุมของกรมสรรพากรที่จะสามารถเก็บข้อมูลการเสียภาษีและการเข้าระบบของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นกัน" นายอภิศักดิ์ กล่าว

ขณะที่โครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายในสิ้นปีนี้ระบบการทำธุรกรรมของภาครัฐทั้งหมดทั้งรายรับและรายจ่ายจะเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุนทางการเงินและลดข้อผิดพลาดในการนับเงิน และจะทำให้การทำงานเร็วขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมการเปิดรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยด้วย

นายอภิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในด้านโครงการให้ความรู้และส่งเสริมการใช้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ภายในเดือน เม.ย.59 จะเริ่มมีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับประโยชน์และสิทธิที่ประชาชนจะได้จากโครงการดังกล่าว อาทิ หากใครที่เข้ามาใช้ระบบ e-Payment ก็อาจจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้วยการคิดภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่าอัตราปกติ เป็นต้น โดยยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามความเหมาะสม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ