นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า งานเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้จะเน้นเรื่องความสุขของการเล่นน้ำอย่างรู้คุณค่าเป็นหลัก เป็น “สงกรานต์วิถีไทย" ที่คำนึงถึงการใช้น้ำเพื่อชีวิตของทุกคนกระทรวงฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานยิ่งใหญ่ประจำปี งานเทศกาลเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ : มหัศจรรย์ มรดกจารึก 3 แผ่นดิน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เช่น ไทยเบฟ สสส. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย หอการค้าจังหวัด และ Thai PBS จัดงาน“สงกรานต์แบบไทยใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า" ใน จังหวัดหลัก 12 แห่ง และส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ตามชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ
"บรรยากาศสงกรานต์ในประเทศซึ่งเป็นวันหยุดยาว 5 วัน ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ โดยประมาณการไทยเที่ยวไทย 2 ล้านคนในช่วงสงกรานต์ เพิ่มขึ้น 2% มีการใช้จ่ายประมาณ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 จากปีที่แล้ว"นางกอบกาญจน์ กล่าว
รมว.ท่องเที่ยวฯ กล่าวอีกว่า เทศกาลสงกรานต์มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล ประชาชนคนไทยควรอนุรักษ์และส่งผ่านประเพณีอันดีงามนี้ให้ถึงรุ่นลูกหลานซึ่งแม้ปีนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทยต้องประสบกับภัยแล้ง แต่เราก็สามารถสืบสานประเพณีสงกรานต์ได้อย่างภาคภูมิใจด้วยมรรยาท ด้วยวัฒนธรรมที่ดีงามแบบไทยๆ โดยใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เป็นการสนุกแบบพอเพียง และอย่าลืมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นแขกบ้านแขกเมืองในเทศกาลสำคัญนี้ด้วยน้ำใจไมตรีของความเป็นไทย
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมในปีนี้จนถึงวันที่ 27 มี.ค.59 อยูที่ 8,689,624 คน ขยายตัว 15.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยว 446,557.50 ล้านบาท ขยายตัว 20.30% และในช่วงท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์ปี 59 นี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมา 495,000 เพิ่มจากปีที่แล้ว 26% น่าจะสร้างรายได้ 8,180 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 34% ประเมินค่าใช้จ่ายต่อทริปประมาณ 16,525 บาท เพิ่มขึ้น 6% วันพักเฉลี่ยประมาณ 3.12 วัน
ทั้งนี้ มีแนวโน้มที่ดีจากการขออนุญาตบินเข้ามาล่วงหน้า ด้วยจำนวนเที่ยวบินเหมาลำและพิเศษ รวม 94 เที่ยวบิน กรุงเทพ 69 ภูเก็ต 21 กระบี่ 4 รวมที่นั่ง 21,828 ที่นั่ง โดยบินมาจากประเทศจาก จีน เกาหลี รัสเซีย มากที่สุด
ส่วนมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์และการท่องเที่ยวในประเทศที่รัฐบาลประกาศวานนี้นั้น บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าใช้จ่ายที่จ่ายช่วงสงกรานต์ มาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นค่าอาหารและเครื่องดื่มให้แก่ร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือโรงแรม / ค่าบริการสำหรับการท่องเที่ยวในประเทศให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว / ค่าที่พักในโรงแรม, ต้องซื้อสินค้าหรือรับบริการจากผู้ประกอบการจดทะเบียน VAT, ต้องชำระค่าสินค้าหรือบริการระหว่างวันที่ 9-17 เม.ย.59, ต้องมีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป แต่ค่าซื้อสุรา เบียร์ และไวน์ ไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนดังกล่าวได้
ด้านนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13-17 เม.ย.ธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมรายการถอนเงินสดข้ามเขตผ่านเครื่องถอนเงินสดอัตโนมัติ (ATM) ของธนาคารเจ้าของบัตร ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายการฝากเงินสดข้ามเขตภายในธนาคารเดียวกันผ่านเครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ (CDM) สำรองเงินสดในตู้ ATM ให้เพียงพอกับการใช้บริการของประชาชนช่วงวันหยุดยาว ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆผ่านหน้าจอ ATM เชื่อมโลกดิจิทัลรับวันสงกรานต์
ขณะที่นายสุวิทย์ อารยะวิไลพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานบริหารผลิตภัณฑ์ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสขอร่วมสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล และกระทรวงท่องเที่ยวฯ ในการนำบริการและกิจกรรมบนโลกดิจิทัล ซึ่งพัฒนาโดยผู้ประกอบการดิจิทัลคนรุ่นใหม่ หรือ กลุ่มสตาร์ทอัพจากโครงการ AIS The StartUp รวม 10 ทีม 10 บริการ มาเติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนไทย ครบ 360 องศา ทั้งกิน ดื่ม เที่ยว ช้อปปิ้ง และกีฬา ผ่านมือถือและแอพพริเคชั่นที่มาพร้อมสิทธิพิเศษ ส่วนลด และของรางวัลมากมาย เพื่อมอบความสุขและความสดใสในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้กับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ