นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 26-28 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ และสภาธุรกิจไทย-เวียดนาม เดินทางไปพบปะนักธุรกิจไทยที่ลงทุนในเวียดนาม รวมถึงผู้นำเข้าสินค้าไทยในเวียดนาม เพื่อหารือถึงโอกาสและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจในเวียดนาม และเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับผู้บริหารระดับสูงภาครัฐเวียดนาม
การเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนามครั้งนี้ถือเป็นการเปิด chapter ใหม่ของความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนไทย-เวียดนาม ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เวียดนาม และเป็นการลงพื้นที่บูรณาการการทำงานเป็นทีมกับภาคเอกชนของไทยในลักษณะประชารัฐ เพื่อหารือรายละเอียดของประเด็นต่าง ๆ ที่เป็นอุปสรรคทางการค้าการลงทุนของไทยในเวียดนามและร่วมกันวิเคราะห์แนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ได้ท่าทีไทยที่ชัดเจนก่อนการเจรจากับภาครัฐเวียดนาม ซึ่งในครั้งนี้ รมช.พาณิชย์และคณะ ได้พบกับ รมช.อุตสาหกรรมและการค้า และ รมช.การลงทุนและวางแผน ของเวียดนามด้วย
ผลหารือกับภาครัฐเวียดนามได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดี โดยทั้ง 2 หน่วยงานได้ทราบข้อติดขัดของการค้าการลงทุนของไทย และยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือ พร้อมกันนี้ได้แจ้งว่า เวียดนามอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบไปในทิศทางที่เอื้อและอำนวยความสะดวกต่อการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ และขอบคุณที่นักลงทุนไทยให้ความเชื่อมั่นในการมาลงทุนในเวียดนาม ฝ่ายไทยได้ยืนยันว่า การลงทุนของไทยในเวียดนามมุ่งหวังการเจริญเติบโตไปพร้อมกับหุ้นส่วนชาวเวียดนาม และขอฝากดูแลนักลงทุนไทยในเวียดนามด้วย ทั้งนี้นอกจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่ไทยมี 2 แห่งในเวียดนามอยู่แล้ว จะพิจารณาส่งผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (BOI) มาประจำการในเวียดนามในเร็ว ๆ นี้ด้วย
รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ประเทศเวียดนามมีการเติบโตอย่างมาก (urbanization) ผลของการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราสูงอย่างต่อเนื่อง ตลาดเวียดนามตอนเหนือกับเวียดนามตอนใต้มีความแตกต่างกันมาก และได้รับการยืนยันว่าสินค้าไทยได้รับการตอบรับที่ดีมากในเวียดนามเนื่องจากคุณภาพดีและราคาที่เหมาะสม แต่ความนิยมสูงในสินค้าไทยทำให้เกิดปัญหาการปลอมแปลงสินค้าตามมา ซึ่งจะต้องดำเนินการแก้ไขร่วมกับฝ่ายเวียดนามต่อไป นอกจากนี้สินค้าและธุรกิจบริการของไทยยังมีโอกาสขยายตัวอีกมากในเวียดนาม
"ปัจจุบันการค้าและการลงทุนเป็นเสมือนคนละด้านของเหรียญที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ซึ่งนับจากนี้ไปบทบาทของกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินการส่งเสริมการค้าและการลงทุนของไทยในต่างประเทศ (outward investment) ควบคู่กันไป โดยบูรณการการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อสนับสนุนให้การลงทุนของไทยในเวียดนามเป็นตัวขับเคลื่อนการค้าให้สามารถบรรลุเป้าการค้าที่รัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศได้ตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในปี 2020 ต่อไป" นายอดุลย์ กล่าว