ก.เกษตรฯ ประกาศปิดอ่าวฝั่งอันดามัน 3 เดือน เริ่ม 1 เม.ย.-30 มิ.ย. ย้ำห้ามใช้เครื่องมือที่กระทบต่อขยายพันธุ์สัตว์น้ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 31, 2016 15:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วย รมต.ประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีประกาศใช้มาตรการบริหารทรัพยากรสัตว์น้ำในฤดูปลาที่มีไข่และวางไข่เลี้ยงลูก (ปิดอ่าว) ฝั่งทะเลอันดามัน ว่า มาตรการนี้เป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญในการบริหารจัดการทรัพยากรประมงของประเทศ โดยจะประกาศปิดอ่าวฯ เป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายนของทุกปี ในอาณาเขตพื้นที่ 4,696 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนใน 4 จังหวัดได้แก่ จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง โดยกำหนดห้ามใช้เครื่องมือในการทำประมงบางชนิดที่ส่งผลกระทบต่อขยายพันธุ์ของทรัพยากรสัตว์น้ำวัยอ่อนโดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ

โดยปีนี้ได้มีหน่วยงานร่วมสนับสนุนในการออกลาดตระเวนผู้กระทำผิดกฎหมายตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่ ศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามันกระบี่ ตำรวจน้ำ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณะภัยจังหวัดกระบี่ กองทัพเรือภาค 3 หน่วยอนุรักษ์ทรัพยากรทะเลและชายฝั่งจังหวัดกระบี่ กรมเจ้าท่า สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 1 กองกำกับการ 9 กอง นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานของภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ศูนย์ประสานการปฏิบัติงานในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล) และเครือข่ายต่างๆ อาทิ ประมงอาสา ยุวประมง ฯลฯ เข้ามาร่วมดำเนินงานอย่างบูรณาการเพื่อช่วยกันเฝ้าระวังและป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายตาม พ.ร.ก.ประมง 2558

สำหรับเครื่องมือที่ห้ามทำการประมง ได้แก่ 1.อวนลากทุกประเภททุกขนาดที่ใช้ประกอบเรือกล 2.อวนประเภทล้อมจับทุกชนิด 3. อวนติดตาที่มีช่องเล็กกว่า 4.7 เซนติเมตร แต่มีเครื่องมือบางชนิดที่ได้รับการยกเว้นให้ทำการประมงได้ ได้แก่ 1.เครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตักในเวลากลางวันทำการประมงตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพรอาทิตย์ตก 2.เครื่องมืออวนลากคานถ่างที่ใช้ประกอบกับเรือกล (เครื่องมืออวนลากคานถ่างแผ่นตะเฆ่มีคานถ่างหรืออวนลากแคระที่ใช้ประกอบเรือกลซึ่งเชือกเส้นใยประดิษฐ์เป็นสายลากอวน เฉพาะในเวลากลางคืนตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้น) และ 3.เครื่องมืออวนโป๊ะ หากผู้ใดฝ่าฝืน พ.ร.ก. การประมง พ.ศ.2558 จะมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000–30 ล้านบาท หรือปรับห้าเท่าของมูลค่าสินค้าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำประมง แล้วแต่อย่างใดจะสูงกว่า รวมทั้งริบเครื่องมือ สัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์สินค้าสัตว์น้ำ เรือประมง หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้ในการกระทำผิด หรือได้มาโดยการกระทำผิดด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ