พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า การจะใช้มาตรา 44 ในกรณีที่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) จะรับช่วงคลื่นจากบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะประมูลคลื่น 900 MHz ในครั้งก่อน ที่ราคา 75,654 ล้านบาท ในเรื่องนี้จะต้องให้ฝ่ายกฎหมายทั้งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และในส่วนของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ไปพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน ซึ่งหากเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายก็พร้อมที่จะดำเนินการ
"ถ้ามันจำเป็น และไม่ใช่เรื่องเสียหาย ผมก็ทำเพื่อประเทศ มาตรา 44 มีไว้อย่างนั้น ไม่ใช่มีไว้ใช้ปราบปรามคนเพียงอย่างเดียว"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่มีการเสนอเรื่องดังกล่าวมาถึงตน แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้จะต้องยึดข้อกฎหมาย และผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ และต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นหลัก โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่สามารถเอื้อประโยชน์ให้กับใครได้
"เราต้องพิจารณาว่า ถ้าทำได้วันนี้มันจะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติเท่ากับที่ต้องทิ้งช่วงไปอีกระยะเวลาหนึ่ง ถึงเวลานั้นรายได้ที่จะรับเข้ามา มันจะมากน้อยกว่ากันเท่าไร อย่างไร อย่ามองว่าเอื้อประโยชน์เพื่อใคร"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า หลักเกณฑ์ในการพิจารณาต้องคำนึงถึงว่า หากมีการประมูลใหม่จะได้ราคาที่คุ้มหรือไม่ และหากสามารถเจรจาได้ รัฐจะต้องไม่เสียประโยชน์ ระบบการสื่อสารต้องดีขึ้น และค่าบริการเครือข่ายมือถือไม่สูงขึ้น