นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยถึงกรณีที่มีคนไทย 21 คนอยู่ในรายชื่อของเอกสารลับจากปานามาว่า ตามปกติแล้วการลงทุนในต่างประเทศนั้น บริษัทส่วนใหญ่มักจะไปจดทะเบียนในต่างประเทศที่ไม่มีการจัดเก็บภาษี ทำให้นักลงทุนไทยเลือกไปใช้สิทธิประโยชน์ส่วนนั้นมากกว่า ซึ่งยืนยันไม่ได้ว่าเป็นการเลี่ยงภาษีหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เป็นหน้าที่ของกรมสรรพากรจะตรวจสอบในรายละเอียดอีกครั้งว่าการจดทะเบียนบริษัทของนักลงทุนไทยทั้ง 21 รายนั้น เพียงเพื่อทำธุรกิจหรือเพื่อเทคนิคในการเลี่ยงภาษีหรือเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่
ด้านนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ถึงบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบของ ป.ป.ง.อยู่ ดังนั้นหาก ป.ป.ง.ตรวจสอบแล้วพบว่าฟอกเงินจริง ก็เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ง.ที่จะดำเนินการต่อ แต่หากเป็นเรื่องในการตรวจสอบภาษีก็จะส่งต่อมาให้กรมสรรพากรพิจารณาต่อไป
"ตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูล ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่าจะมากกว่า 21 ราย และตามปกติการไปเปิดบริษัทในต่างประเทศอาจเป็นการทำธุรกิจในต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องปกติที่ทุกบริษัทสามารถทำได้ จึงไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมายหรือการเลี่ยงภาษี และเมื่อปีก่อนกรมสรรพากรได้แก้ไขกฎหมายให้นักลงทุนที่จดทะเบียนเพื่อทำธุรกิจในต่างประเทศไม่ต้องเสียภาษีเช่นเดียวกับประเทศอื่น เพื่อจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาตั้งบริษัทในไทยมากขึ้น โดยขณะนี้มีบริษัทไทยกลับเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศแล้วกว่า 30 ราย" นายประสงค์ กล่าว