นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลสำเร็จของการจัดงานแสดงสินค้า BIFF&BIL 2016 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 9 – 13 มีนาคมที่ผ่านมา แม้ว่าในสภาวะที่การค้าทั่วโลกชะลอตัว แต่ด้วยศักยภาพของการเตรียมงานที่ผ่านมาตั้งแต่การปรับเปลี่ยนแนวทางการจัดงานโดยเฉพาะการจัดโซนการสั่งซื้อสินค้าในปริมาณน้อย (Small Lot Order Services) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมไปถึงการเข้าไปให้คำปรึกษาการนำเสนอผลงานของดีไซเนอร์ไทยให้สอดรับกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้งานได้รับความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ในปีนี้มีผู้เข้าชมงานจำนวน 28,254 ราย แบ่งเป็นผู้ชมงานในวันเจรจาธุรกิจ 5,735 ราย และผู้ชมงานในวันจำหน่ายปลีก 22,519 ราย ทางด้านนักธุรกิจจากต่างประเทศที่เข้าร่วมงานสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย และสหรัฐอเมริกาโดยในส่วนของการจับคู่ธุรกิจในปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมเจรจาการค้า 150 คู่ ซึ่งเป็นการเจรจาธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการของประเทศในกลุ่มอาเซียนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ประกอบการต้องการจะขยายตลาดและสร้างพันธมิตรธุรกิจเพื่อเตรียมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำหรับยอดการซื้อขายในวันเจรจาธุรกิจมีมูลค่า 49.56 ล้านบาท และในวันจำหน่ายปลีกมีการซื้อขายรวมมูลค่า 20.63 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายภายใน 1 ปี จากวันเจรจาธุรกิจ รวมมูลค่า 1,007.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 53.6 จากปี 2558 ส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดในงานปีนี้รวม 1,077.99 ล้านบาท และเพื่อเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เตรียมนำผลงานดีไซเนอร์ไทยที่ได้รับคัดเลือกจากผู้ประกอบการ ผู้ซื้อจากประเทศญี่ปุ่นทั้ง 7 แบรนด์ไทยชั้นนำ ได้แก่ Fox Poxel, Munchu’s, ISSUE, Q Design&Play, MANI MINA, Leisure Project Store, เฮ้าส์ซอคโซเรียว ร่วมจัดแสดงคอลเลคชั่นใหม่ครั้งแรกบริเวณแหล่งช้อปปิ้งฮาราจูกุ (HARAJUKU) ย่านดังประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ยังให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ดีไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ 7 แบรนด์ชั้นนำเดินทางไปร่วมเวิร์คช็อป พร้อมลงพื้นที่ตามสถานที่แหล่งแฟชั่นยอดนิยมเป็นระยะเวลา 10 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมและเรียนรู้วัฒนธรรมของกลุ่มเป้าหมาย สินค้าแฟชั่น และรสนิยมของผู้ซื้อก่อนแสดงจริง
นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาดีไซเนอร์ไทยให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยังได้จัดสัมมนาพิเศษจากวิทยากรทั้งในและต่างประเทศ ในหัวข้อต่างๆ อาทิ การวิเคราะห์เจาะลึกถึงความต้องการในตลาดต่างประเทศ เทรนด์และแฟชั่นไลฟ์สไตล์ การทำครีเอทีฟแบรนด์ดิ้ง ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ประกอบการ บายเออร์ ดีไซน์เนอร์ และผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นอย่างดี ก่อนปิดงานด้วยการประกวด Fashion Designer of The Year ทั้ง 5 ประเภท ชึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี้นี้ โดยผู้ที่ได้รับรางวัล มีดังนี้ 1.) รางวัลชนะเลิศ สาขารางวัล The Heritage จากแบรนด์ Akara 2.) รางวัลชนะเลิศ สาขารางวัล The Urban จากแบรนด์ Plinn 3.) รางวัลชนะเลิศ สาขารางวัล The Casual จากแบรนด์ La Jewelry 4.) รางวัลชนะเลิศ สาขารางวัล The Source จากแบรนด์ KURU และ 5.) รางวัลชนะเลิศ สาขารางวัล Best Visual Merchandize of the year จากแบรนด์ Missmyst โดยผู้ชนะทั้ง 5 ประเภท นอกจากจะได้รับโล่ห์จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแล้ว ยังได้รับสิทธิพิเศษร่วมออกบูธที่งาน Fashion Retail Fair ณ ประเทศเกาหลี ในวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม 2559
“BIFF&BIL 2016 เป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งของอุตสาหกรรมแฟชั่น สิ่งทอ และเครื่องหนัง ทั้งยังเป็นที่น่าจดจำงานหนึ่งของเอเชีย ซึ่งทางคณะผู้จัดงานยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าจัดงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 35 ในช่วงเดือนมีนาคม 2560" ท่านอธิบดี กล่าว