พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน พร้อมด้วยนายสุนชัย คำนูญเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำคณะผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดลพบุรี ระหว่างวันที่ 7-8 เมษายน 2559 เพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
พร้อมกำชับกฟผ.ให้ดูแลเพื่อให้เกิดเสถียรภาพของการส่งไฟฟ้าเข้าระบบ ตลอดจนการบริหารจัดการเรื่องราคาให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เนื่องจากไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานทดแทนมีต้นทุนที่สูง หลังพบผู้ประกอบการมีความสนใจเข้ามาลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้น
"การลงพื้นที่ในครั้งนี้เป็นการติดตามการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนว่า ประสบปัญหา หรืออุปสรรคอะไรบ้าง โดยในภาพรวมตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 - 2579 หรือ AEDP 2015 ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะมีการเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็น 30% ต่อการใช้พลังงานรวม ซึ่งปัจจุบันการใช้พลังงานทดแทนมีการเติบโตมากขึ้น ผู้ประกอบการก็มีความสนใจเข้ามาลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้น"พลเอกอนันตพร กล่าว
รมว.พลังงาน กล่าวว่า โครงการพลังงานทดแทนเป็นโครงการที่รัฐบาลและกระทรวงพลังงานส่งเสริม และต้องการให้ประเทศไทยมีพลังงานทดแทนในจำนวนที่มีความเหมาะสมด้วย
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ คณะของรมว.พลังงานเข้าเยี่ยมชมครั้งนี้ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภท SPP-Non firm ขนาด 30 เมกะวัตต์ ของบมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) ที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงขยะ ประเภท SPP-Non firm ขนาด 55 เมกะวัตต์ของบมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงาน เวสต์ ห้วยบง ประเภท SPP-Non firm ขนาด 90 เมกะวัตต์ ของบริษัท เคพีเอ็น เอ็นเนอยี โฮลดิ้ง จำกัด ที่อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา และโรงไฟฟ้าชีวมวล (เศษไม้สัก) ประเภท VSPP-Non firm ขนาด 8 เมกะวัตต์ ของบริษัท เอเวอร์กรีน พลัส จำกัด ที่อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี