นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่ตรวจสอบภาวะราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ จตุจักร (หมอชิต 2) ว่า ราคาอาหารและสินค้ายังทรงตัว ไม่มีการปรับขึ้น โดยราคาอาหารปรุงสำเร็จ (อาหารจานเดียว) อยู่ที่จานละ 30-40 บาท ส่วนราคาน้ำดื่มบรรจุขวดอยู่ที่ขวดละ 7-10 บาทตามปริมาตรบรรจุ ขณะเดียวกันปริมาณสินค้ามีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน โดยได้กำชับให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน
สำหรับการตรวจสอบภาวะราคาสินค้าที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พบว่าราคาสินค้าอยู่ในระดับปกติ ในส่วนของราคาน้ำดื่มบรรจุขวดทั้งในพื้นที่ก่อนเช็คอิน และหลังเช็คอินจำหน่ายขวดละ 10 บาท
ด้านราคาอาหารสดในพื้นที่ขายทั่วไป ทั้งในตลาดสด ห้างสรรพสินค้า เช่น เนื้อหมู, เนื้อไก่, ไข่ไก่ ขณะนี้ราคาทรงตัวในระดับปกติ มีสินค้าบางชนิดที่ราคาปรับขึ้นตามฤดูกาล เช่น มะนาว ราคาลูกละ 5-8 บาท แต่ขณะนี้ ยังไม่มีประชาชนร้องเรียนเรื่องราคาสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่อย่างใด
"ช่วงสงกรานต์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาสินค้าและบริการ ตั้งแต่วันที่ 4 -17 เม.ย.59 รวมทั้งรณรงค์ให้ผู้ประกอบการตามสถานีขนส่ง และสถานีรถไฟทั่วประเทศ เช่น ผู้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ให้บริการรับฝากของ บริการรถเข็นสัมภาระ ต้องปิดป้ายแสดงราคาอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าและคิดค่าบริการสูงเกินสมควรในช่วงเทศกาล ที่มีประชาชน โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยใช้บริการอย่างคับคั่ง" รมว.พาณิชย์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ตามสถานที่ท่องเที่ยว ตลอดจนสถานีขนส่งและสถานีรถไฟทั่วประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยให้แสดงราคาสินค้าและบริการไว้ที่สินค้าหรือบริเวณใกล้เคียง หากสภาพสินค้าไม่สามารถแสดงราคาได้ให้จัดทำบัญชีแสดงราคาไว้ในที่เปิดเผยเพื่อให้ผู้บริโภคเห็น โดยราคาที่แสดงต้องเป็นราคาต่อหน่วย และต้องมีตัวเลขอารบิกให้เห็นชัดเจน อ่านง่าย กรณีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายอื่นๆ นอกเหนือจากราคาหรือค่าบริการ ต้องแสดงให้ชัดเจนและครบถ้วน ควบคู่กับราคาจำหน่ายหรือค่าบริการนั้นๆ และราคาที่ติดต้องตรงกับราคาจำหน่ายด้วย
รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า หากผู้บริโภคพบการกระทำผิด มีการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร หรือจำหน่ายในราคาไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ หากพบการกระทำความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่ายต้องโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
"กระทรวงพาณิชย์ขอให้ประชาชนผู้บริโภค ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้ โดยเลือกซื้อสินค้าอย่างฉลาดและคุ้มค่า รักษาสิทธิของตนเองในการซื้อสินค้าหรือบริการ โดยเปรียบเทียบราคาและปริมาณ อ่านฉลากสินค้าให้ชัดเจน สำหรับผู้ประกอบการขอความร่วมมือให้จำหน่ายสินค้าในราคาที่เป็นธรรมในช่วงวันหยุดยาวนี้ด้วย" นางอภิรดี กล่าว