นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและเร่งรัดการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ครั้งที่ 4/2559 โดยที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบผลงานเด่นประจำเดือนมีนาคม 2559 ของส่วนราชการต่าง ๆ จำนวน 12 ส่วนราชการ ซึ่งมีผลงานเด่น อาทิ การแก้ไขปัญหาเร่งการทำประมง ผิดกฎหมาย โดยได้มีการออกกฎหมายอนุบัญญัติรองรับพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2559 ที่มีความสำคัญเร่งด่วน จำนวน 53 ฉบับ โดยได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จำนวน 46 ฉบับ และส่วนที่เหลือจำนวน 7 ฉบับ อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนการบังคับใช้กฎหมายได้มีการตรวจเรือประมงขนาด 60 ตันกรอสขึ้นไป จำนวน 1,058 ลำ
ตลอดจน มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนวิสาหกิจเพื่อสังคมด้วยการให้สามารถหักรายจ่ายเงิน ลงทุนในหุ้นสามัญของวิสาหกิจเพื่อสังคมและรายจ่ายเงินที่มอบให้หรือทรัพย์สินที่โอนให้วิสาหกิจเพื่อสังคมและโครงการบ้านประชารัฐ ซึ่งได้กำหนดประเภทที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการ ระยะเวลา กลุ่มเป้าหมายและคุณสมบัติ ผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ มาตรการสินเชื่อและการสนับสนุนของภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าโครงการนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนได้ดี
อีกทั้งยังมีโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ซึ่งปรับจากเดือนละ 400 บาท เป็นเดือนละ 600 บาท โดยมีครัวเรือนที่ยากจนได้รับความช่วยเหลือจำนวน 128,000 ครัวเรือน โดยมีผลเบิกจ่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2559 และ “โครงการสร้างรอยยิ้ม เติมความสุขชาวดินแดง” ในการพัมนาและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมชุมชน ให้มีความมั่นคง ปลอดภัยแข็งแรง และทันสมัย โดยจะเริ่มดำเนินการได้ภายในเดือนส.ค.นี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการแก้ไขปัญหาและการสร้างเสถียรภาพราคายางพารา ด้วยการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปสร้างพื้นที่ลู่ลานกรีฑา สนามกีฬาและสานอเนกประสงคืจากยางพาราธรรมชาติ ตลอดจนการให้บริการทดสอบตามมาตาฐานผลิตภัณฑ์ พร้อมให้คำปรึกษา และอบรมเพื่อให้ทั้งภาครัฐและเอกชนมีความเข้าใจที่สอดคล้องกันตรงตามความต้องการของภาครัฐ
อีกทั้งรับทราบรายงานความก้าวหน้าด้านเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐโดยได้อนุมัติหลักการโครงการให้กับกองทุนหมู่บ้านฯ ครั้งแรก จำนวน 2,019 กองทุน โดยจะโอนเงิน ทันทีภายในวันศุกร์ที่ 22 เมษายน ศกนี้ และครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ซึ่งจะมีกองทุนหมู่บ้านฯ ที่จะได้รับการโอนเงินเพิ่มเติมอีกกว่า 5,530 กองทุน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการแก้ไขปัญหาและการให้ความช่วยเหลือผลกระทบจากภัยแล้ง อาทิ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม ได้แจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนไปแล้วกว่า 58 ล้านลิตร ในขณะเดียวกัน กรมทรัพยากรน้ำ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ โดยเติมน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ในพื้นที่ 36 จังหวัดจำนวนปริมาณสูงกว่า 26 ล้านลิตร และมีประชาชนได้ประโยชน์กว่า 2 แสนครัวเรือน พร้อมทั้งกรมชลประทานได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 1,900 เครื่อง รถยนต์บรรทุกน้ำ 295 คัน โดยช่วยเหลือครอบคลุมทุกภูมิภาคซึ่งสามารถมีปริมาณน้ำช่วยเหลือประชาชนกว่า 16 ล้านลิตร