นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายจัดหาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยในอัตราดอกเบี้ยต่ำภายใต้ “โครงการบ้านประชารัฐ" โดยกำหนดให้ธนาคารออมสินจัดสรรวงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อปล่อยกู้แก่รายย่อย ซึ่งธนาคารฯ ได้เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 1 เมษายน 2559 แล้วธนาคารฯ ได้คัดกรองพิจารณาคุณสมบัติตามเกณฑ์ไปแล้ว จำนวน 17,243 ราย คิดเป็นวงเงิน 18,990 ล้านบาท คิดเป็น 55% ของผู้ลงทะเบียนไว้จำนวน 31,352 ราย โดยมีผู้ผ่านเกณฑ์จำนวน 6,252 ราย คิดเป็นวงเงินกว่า 6,855 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 36% ของยอดผู้ลงทะเบียน
ทั้งนี้ คาดว่าเมื่อคัดกรองจนครบแล้วจะมีวงเงินโครงการคงเหลือประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินจึงขอแจ้งว่า ธนาคารฯ ได้เปิดให้ประชาชนรายย่อยได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐนี้อีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 22-30 เมษายน 2559 นี้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากปิดรับแจ้งความประสงค์ในรอบที่ 2 นี้ แล้วปรากฏว่าเมื่อธนาคารฯ ดำเนินการอนุมัติสินเชื่อจากผู้ลงทะเบียนจนเสร็จสิ้นเกินวงเงินที่ตั้งไว้ 20,000 ล้านบาท ธนาคารออมสินจะเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยเพื่อรองรับเป็นกรณีพิเศษเฉพาะลูกค้าที่เกินส่วน 20,000 ล้านบาทต่อไป
นายชาติชาย กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ทำให้ผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ไม่ผ่านเกณฑ์การอนุมัติ ได้แก่ 1.มีบ้านหลังแรกมาก่อนแล้ว 2.บ้านพร้อมที่ดินมีราคาเกิน 1.5 ล้านบาท 3.คู่สมรสมีกรรมสิทธิ์แล้ว ทำให้อีกฝ่ายใช้สิทธิ์ไม่ได้ 4.เจ้าของบ้านมีอายุมาก เกินเกณฑ์ 5.ปลูกสร้างบ้านหรือซ่อมแซมบ้านบนที่ดินของพ่อแม่หรือผู้อื่น 6.ที่อยู่อาศัยที่ลูกค้าสนใจไม่ได้เข้าร่วมโครงการบ้านประชารัฐ ทั้งนี้ ธนาคารฯ ได้ทยอยแจ้งให้กลุ่มผู้ลงทะเบียนผู้สนใจทราบเบื้องต้นแล้ว
“ขอฝากถึงผู้ที่แจ้งความจำนงไว้ แล้วยื่นเอกสารไม่ครบ ให้รีบดำเนินการติดต่อและยื่นให้ครบโดยเร็ว เพราะธนาคารฯ จะตั้งวงเงินไปเรื่อยๆ ตามหลักฐานการยื่นกู้และความพร้อมของผู้สนใจ ใครพร้อมก่อนจะได้รับการอนุมัติก่อน และจำนองก่อนจนกว่าจะครบ 20,000 ล้านบาท"นายชาติชาย กล่าว