นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.07/08 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ ระดับ 35.02 บาท/ดอลลาร์
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.95-35.15 บาท/ดอลลาร์
"หลังรู้ผล ECB ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ แต่ยูโรก็วิ่งขึ้นวิ่งลง เงินบาทก็วิ่งขึ้นวิ่งลง...วันนี้จะมีตัวเลข PMI ของยูโร โซน แต่ของสหรัฐฯไม่มีประเด็นหรือตัวเลขอะไร" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.37 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 109.75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1300 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.1304 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0370 บาท/
ดอลลาร์
- "สมาคมตราสารหนี้" เผยครึ่งแรกเดือน เม.ย. เงินไหลออกจากบอนด์ระยะสั้นสุทธิ 894 ล้านบาท ยอมรับทิศทาง
เงินทุนยากประเมินในระยะสั้น ขณะที่ตลาดมองการฟื้นตัวเศรษฐกิจไม่เร็วมาก ด้านยอดออกหุ้นกู้ครึ่งแรกเดือน เม.ย. อยู่ที่ 5.0
หมื่นล้าน เป็น Non-Rated 3.2% ระบุเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุนมากกว่า
- แบงก์รายงานกำไรไตรมาสแรกทั้งระบบลดลง 4% โดยเฉพาะแบงก์ใหญ่วูบจากภาระการตั้งสำรอง เพื่อรับมือ
เศรษฐกิจชะลอและเอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้น กรุงไทยเร่งอัดสำรองเพิ่ม 131% หลังหนี้เสียพุ่ง 18% จากสินเชื่อทุกกลุ่มธุรกิจ ขณะที่กรุงศรี
กำไรเพิ่ม 19%
- ธนาคารกรุงเทพ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ เอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อย
ชั้นดี (Minimum Retail Rate) ลง 0.250% เหลือ 7.625% มีผลตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่องจาก
เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ที่ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อเอ็มแอลอาร์ (MLR) ลง 0.25% เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบ
การธุรกิจ
- ธนาคารกสิกรไทย ได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้า
รายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลง 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน 2559 เนื่องจากธนาคารมีความห่วงใยในผู้
ประกอบการเอสเอ็มอีและลูกค้ารายย่อยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในภาวะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังชะลอตัวอยู่ อีกทั้งยังเป็น
การเพิ่มสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเร่งการฟื้นตัวของประเทศ
- ที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.4% นอกจากนี้ ECB ยังได้คงวงเงินในการซื้อพันธบัตร
ตามมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน
- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า จะใช้เครื่องมือทางการเงินทั้งหมดนานเท่าที่มี
ความจำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน โดยนโยบายของ ECB กำลังบังเกิดผล ซึ่งช่วยหนุนค่าเงินยูโร พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาล
ของประเทศต่างๆในยูโรโซนช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคให้แข็ง
แกร่งขึ้น ผ่านทางนโยบายการคลัง และการปฏิรูป
- สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) หลังจาก
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ โดยเงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ
ที่ระดับ 1.1289 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1306 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ
109.56 เยน จากระดับ 109.78 เยน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตก
กังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากรัสเซียและสมาชิกในกลุ่มโอเปกบางประเทศได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะปรับเพิ่มการ
ผลิต นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่ง
มอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 43.18 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ดิ่งลง
1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 44.53 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดใน
แดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังกดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็น
สินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 4.10 ดอลลาร์ หรือ
0.33% ปิดที่ระดับ 1,250.30 ดอลลาร์/ออนซ์