พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อประชุมคณะกรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวประจำเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งตะวันตก (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง) เพื่อรับทราบปัญหาการดำเนินงานภายใต้เขตพัฒนาการท่องเที่ยว
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งตะวันตก ในรอบปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ทั้งจำนวนและรายได้ ในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 1,622,215 คน นักท่องเที่ยวชาวไทย จำนวน 11,364,091 คน สร้างรายได้ถึง 64,926 ล้านบาท
ทั้งนี้ เขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งตะวันตกมีจุดเด่นเรื่องของน้ำทะเล น้ำพุร้อน แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ หรือกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ จะดำเนินการผลักดันให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวไปสู่จังหวัดชุมพรและระนองให้มากขึ้น โดยการขับเคลื่อนกลไกประชารัฐ รักษาและฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และทรัพยากรธรรมชาติ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในการกระจายรายได้สู่ชุมชนให้มากขึ้น
ด้านนางกอบกาญจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้บรรจุแนวทางการพัฒนาเขตการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันตกไว้ในแผนปฏิบัติการพัฒนาการท่องเที่ยว พ.ศ. 2559-2563 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเส้นทางการท่องเที่ยวฝั่งตะวันตกในการเชื่อมโยงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มคลัสเตอร์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา “สุดยอดเส้นทางการท่องเที่ยวของประเทศ" เป็นโครงการเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นให้ชุมชน หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในแต่ละเขตได้ร่วมกันคิดวางแผนและดำเนินกิจกรรม โดยมุ่งหวังเพื่อให้เกิดเส้นทางท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ เป็นกิจกรรมที่สามารถจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพิ่มมากขึ้น พำนักมากขึ้น และใช้จ่ายมากขึ้น
ส่วนโครงการ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด การดำเนินการในปีที่ผ่านมา สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ 19.78 ล้านคน และสร้างรายได้ให้แก่จังหวัดต่างๆ มากกว่า 66,987 ล้านบาท โดยจังหวัดตราดและนครศรีธรรมราช เป็นจังหวัดที่มีรายได้จากผู้ไปเยือนมากที่สุด และจังหวัดชุมพร เดิมเป็นเพียงจังหวัดทางผ่าน มีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ของนักท่องเที่ยวมีการแวะพักมากขึ้นอีกด้วย