นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากออกไปว่า การขยายเวลาคุ้มครองเงินฝากออกไป และจะทยอยลดวงเงินคุ้มครองแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้น มีข้อดีสำหรับประชาชนผู้ฝากเงินที่จะได้มีเวลาปรับตัวและวางแผนทางการเงินเพิ่มขึ้น มีเวลามากขึ้นที่จะพิจารณาผลิตภัณฑ์การเงินที่จะมาทดแทนเงินฝากที่เหมาะสมกับตน
นอกจากนี้ การขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากดังกล่าว ยังอาจส่งผลดีต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระบบ เพราะสถาบันการเงินไม่ต้องกังวลที่จะแข่งขันกันนำเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อจูงใจผู้ฝากเงินรายใหญ่ ส่งผลให้สถาบันการเงินบริหารต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝากได้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงอยู่ในระดับต่ำได้ต่อเนื่อง สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสถานการณ์ปัจจุบัน
ผู้ว่า ธปท. กล่าวอีกว่า การขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากออกไปและจะทยอยลดวงเงินคุ้มครองแบบค่อยเป็นค่อยไปนั้น ไม่ได้มีเหตุผลเกี่ยวกับความมั่นคงของสถาบันการเงินแต่อย่างใด ในขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ไทยทุกแห่งมีฐานะเงินกองทุนที่เข้มแข็งและมีสภาพคล่องส่วนเกินอยู่ในระดับสูง
นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้เตรียมตัวพร้อมรับการลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชี ตามกำหนดการเดิมไว้แล้ว ซึ่งธปท.ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเงินฝากในระบบสถาบันการเงินไทยอย่างใกล้ชิด และไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติแต่อย่างใด