(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.10/11 ทิศทางยังไม่ชัดเจน รอดูผลการประชุม FOMC คืนนี้ มองกรอบ 35.00-35.20

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 27, 2016 11:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.10/11 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิด ตลาดที่ระดับ 35.15/17 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทมีโอกาสจะไปได้ทั้งสองทิศทาง คือ มีโอกาสทั้งอ่อนค่า และแข็งค่า เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามผล การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ว่า FOMC จะยังมีมติ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมรอบนี้ แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจคือถ้อยแถลงที่จะออกมาหลังประชุม ซึ่งจะมีผลสำคัญต่อแนว โน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต

"วันนี้บาทก็มีโอกาสจะไปได้ทั้ง 2 ทาง คือทั้งอ่อนค่า และแข็งค่า แต่ที่นักลงทุนจับตา คือผลการประชุม FOMC ว่าจะมี ถ้อยแถลงอะไรสำคัญออกมา เพราะรอบนี้เชื่อว่าน่าจะยังคงดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.00-35.20 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.1550 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (26 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.50522% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (26 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.55215%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.18/20 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.86/89 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1300/1302 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1285/1288 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.176 บาท/ดอลลาร์
  • สมาคมตราสารหนี้เผย เงินลงทุนต่างชาติ ไหลกลับเฉียดแสนล้าน ใกล้เคียงกับที่ไหลออก ปีที่แล้วทั้งปี ชี้ต่างชาติมอง
ไทยความเสี่ยงต่ำ เศรษฐกิจมีเสถียรภาพมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน คาดปีนี้ทั้งปีเอกชนออกหุ้นกู้สูงกว่าเป้า หรือในระดับ 5.7 แสน
ล้าน หลังมีบิ๊กดีลซื้อกิจการ และประมูล 4จี หนุน
  • ทรู แจงยังไม่ได้ข้อสรุปเซ็นเอ็มโอยูกับเอไอเอส ย้ำต้องตกลง 2 เงื่อนไขให้ได้ข้อยุติ ชี้อีก 2 อาทิตย์จะตัดสินใจ
เข้าร่วมประมูลคลื่น 900 หรือไม่
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยในระบบมียอดคงค้างเอ็นพีแอลแตะ 3.58 แสนล้านบาท ขยับ 2.64% ของ
สินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นทั้งเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนและไตรมาสก่อนเกือบ 6 หมื่นล้านบาทและ 2 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ ส่วนใหญ่
แบงก์ขนาดใหญ่ยอดขยับ ยกเว้น "ไทยพาณิชย์" ซึ่งหนี้ลดมากสุดในระบบ 3 พันกว่าล้านบาท "กรุงไทย" หนี้ค้างและยอดเพิ่มสูงสุด
  • คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศจับ สลากโซลาร์สหกรณ์ ผ่านทั้งหมด 67 ราย 280 เมกะ
วัตต์ สั่งจ่ายไฟภายใน 31 ธ.ค.นี้ ด้านพีกไฟฟ้าทำลายสถิติเป็นรอบที่ 4 ของปี อยู่ที่ 2.9 หมื่นเมกะวัตต์
  • การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เร่งสนองนโยบายรัฐบาล ผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษอุตฯ ชั้นสูง
เตรียมพื้นที่ 4,000 ไร่ ภาคตะวันออกรองรับ ด้าน "บีโอไอ" ลุยเดินสายชักจูงนักลงทุนต่างชาติ
  • บริษัทจัดอันดับเครดิต มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เปิดเผยว่า ระดับหนี้ที่สูงขึ้นในจีนนับเป็นความเสี่ยงที่สำคัญ ทว่า
ยังไม่ร้ายแรงถึงขั้นเสี่ยงก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินโลกรอบใหม่เหมือนวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2008
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 เม.ย.) ใน
ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างใกล้ชิด โดยเฟดมีกำหนดจะเปิดเผยมติการ
ประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
  • นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารีใน 5 รัฐ ได้แก่ แมรีแลนด์ คอนเน็กติกัต
เดลาแวร์ โร้ดไอส์แลนด์ และเพนซิลวาเนีย เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรครีพับลิกันไปสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐช่วงปลายปีนี้
ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน จากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งขั้นต้นแบบไพรมารีที่รัฐแมรีแลนด์ และเดลาแวร์
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่
ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 0.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะ
พุ่งขึ้น 1.8%
  • ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.4%
ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการ
ขาย (pending home sales) เดือนมี.ค., ดัชนีการผลิตเดือนเม.ย.จากเฟดสาขาดัลลัส และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนัก
งานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
และจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ
WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 44.04 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.
เพิ่มขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • นักลงทุนจับตาดูการประชุมรอบใหม่ระหว่างกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก
โดยนายอับดุลเลาะห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการโอเปกยืนยันว่า การประชุมดังกล่าวจะมีขึ้นในเดือนมิ.ย. เพื่อหารือกันใน
ประเด็นการตรึงกำลังการผลิต
  • นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายก่อนทราบผลการประชุมเฟดในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์

คาดการณ์ว่า เฟดจะส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมครั้งนี้มากกว่าการประชุมในเดือนมี.ค. และคาดว่าการปรับขึ้น

อัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ