ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงคาดภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวได้ที่ 3% แม้เครื่องชี้เศรษฐกิจในเดือนมี.ค.59 และไตรมาส 1/59 จะสะท้อนภาพการฟื้นตัวที่ยังไม่เต็มที่ของเศรษฐกิจไทย แต่การกลับมาเป็นบวกของมูลค่าการส่งออกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของไตรมาสที่ 1/59 นั้นเป็นภาพที่ค่อนข้างจะเหนือความคาดหมายของหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ขณะที่อานิสงส์ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐก็มีส่วนช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจบางส่วน
"แรงถ่วงจากความอ่อนแอของกำลังซื้อในภาคครัวเรือน และการส่งออกที่ยังน่าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยเศรษฐกิจโลก อาจทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ขยายตัวในระดับที่ใกล้เคียง 2.8% (YoY) อย่างไรก็ดี แรงกระตุ้นจากงบกลางปี มาตรการและโครงการลงทุนของรัฐบาล รวมถึงอานิสงส์จากปัจจัยเชิงฤดูกาลที่จะช่วยหนุนการส่งออกและการท่องเที่ยว น่าจะช่วยประคองให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงคาดว่าภาพรวมของเศรษฐกิจไทย น่าจะขยายตัวได้ที่3% ในปีนี้"เอกสารเผยแพร่ ระบุ
ทิศทางที่ดีขึ้นของปริมาณการส่งออกอาจนับเป็นสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจไทยที่เข้ามาช่วยเสริมแรงหนุนเดิมที่มาจากการขยายตัวต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว และการใช้จ่ายของภาครัฐ หลังจากแรงกระตุ้นการใช้จ่ายของครัวเรือนจากปัจจัย/มาตรการระยะสั้นต่างๆ ทยอยสิ้นสุดลงตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ ชะลอลงมาที่ 0.1% YoY ในไตรมาส 1/59 ขณะที่รายจ่ายสินค้าคงทนกลับมาหดตัวในอัตราที่ลึกขึ้นที่ -8.5% YoY
ช่วงไตรมาส 2/59 จุดสำคัญยังอยู่ที่การกระจายอานิสงส์ของมาตรการและการใช้จ่ายของภาครัฐไปยังภาคส่วนต่างๆ เพื่อช่วยหนุนการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนั้นหนึ่งในโจทย์สำคัญของไตรมาส 2/59 จึงยังคงอยู่ที่การพลิกฟื้นกำลังซื้อและรายได้ของครัวเรือน โดยเฉพาะการบรรเทาผลกระทบจากภาวะภัยแล้งที่อาจจะกดดันรายได้ครัวเรือนเกษตรกร และความเคลื่อนไหวของทิศทางราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ภายหลังจากราคาน้ำมันเริ่มขยับขึ้น
นอกจากนี้ต้องยอมรับว่า การฟื้นตัวของมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทย ณ ขณะนี้ ยังคงไม่กระจายครอบคลุมออกไปยังสินค้าส่งออกตัวสำคัญอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการส่งออกทองคำ และรถยนต์ เนื่องจากกำลังซื้อของประเทศคู่ค้าของไทย น่าจะยังไม่ฟื้นตัวกลับมาอย่างเต็มที่ ตราบใดที่สัญญาณของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีนยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัว และอาจจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นได้ภายในช่วงครึ่งแรกของปี ขณะที่โครงสร้างภาคการผลิตของไทยอาจจะยังเป็นข้อจำกัดของการตอบโจทย์ความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลก และราคาน้ำมัน/โภคภัณฑ์ในตลาดโลกยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับในช่วงเดียวกันปีก่อน จะยังคงเป็นตัวฉุดมูลค่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง
"ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า โจทย์เศรษฐกิจที่รออยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2/59 น่าจะเป็นการเร่งผลักดันให้แรงหนุนจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ ทยอยส่งผลบวกที่ชัดเจนและต่อเนื่องครอบคลุมไปยังบรรยากาศการใช้จ่ายของภาคเอกชน เพื่อช่วยลดทอนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะภัยแล้ง และความไม่แน่นอนในทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก" เอกสารเผยแพร่ ระบุ