นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า มูลค่าการส่งออกในเดือน มี.ค.59 ยังได้รับอิทธิพลจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ทรงตัวในระดับสูงต่องเนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากคิดมูลค่าการส่งออกทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปเท่ากับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว จะทำให้การส่งออกของไทยในเดือน มี.ค.59 มีมูลค่าเท่ากับ 18,680.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ หดตัว -1.05%
และเมื่อหักอิทธิพลของการส่งออกทำคำยังไม่ได้ขึ้นรูปและอาวุธยุทโธปกรณ์ในเดือน ก.พ.59 จะทำให้การส่งออกของไทยในไตรมาส 1/59 หดตัวที่ -4.46%
อนึ่ง เมื่อสัปดาห์ก่อนกระทรวงพาณิชย์แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือน มี.ค.59 ว่า การส่งออกยังขยายตัวเป็นบวก 1.3% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีมูลค่า 19,125 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ในช่วง 3 เดือนแรกปี 59 (ม.ค.-มี.ค.) การส่งออกขยายตัว 0.9% มูลค่า 53,829 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นายนพพร กล่าวว่า สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือฯ ยังคงเป้าหมายการส่งออกในปีนี้ไว้ที่ 0-2% แม้จะมองว่ามีโอกาสที่การส่งออกในปีนี้จะหดตัวราว 0.1% หรือมีมูลค่าประมาณ 214,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกลงจาก 3.4% เป็น 3.2% โดยเป็นการปรับลดในส่วนของประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก แต่เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวได้ดีขึ้น โดยเคลื่อนย้ายทุนระหว่างประเทศจะทำให้เกิดผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของประเทศกำลังพัฒนา
ขณะที่องค์การการค้าโลก (WTO) ยังคงระดับการขยายตัวของการค้าระหว่างประเทศไว้ที่ 2.8% เท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่า 3% ติดต่อกันมาเป็นปีที่ 5 โดยการส่งออกของประเทศกำลังพัฒนายังคงเป็นหัวจักรสำคัญ อย่างไรก็ตาม องค์การการค้าโลกคาดว่าการค้าระหว่างประเทศได้ก้าวมาสู่จุดต่ำสุดและมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านปัจจัยพื้นฐานในการคาดการณ์มีดังต่อไปนี้ ค่าเงินบาทเฉลี่ยตลอดปี 35 บาท/เหรียญสหรัฐ อานิสงค์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์สหรัฐฯและจีนที่มีต่อส่งออกไทย ราคาน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล