(เพิ่มเติม) ประธานส.อ.ท.คนใหม่ชูนโยบายผลักดันยุทธศาสตร์ 6 ด้าน จับตาศก.โลก-เงินทุนเคลื่อนย้าย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 4, 2016 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คนใหม่ เปิดเผยถึงวาระการทำงานปี 2559-2561 ว่า จะสร้างความเข้มแข็งโดยเสริมสร้างภราดรภาพ ความเข้าใจ และความสามัคคีของสมาชิก ส.อ.ท.และเจ้าหน้าที่ของ ส.อ.ท. รวมทั้งเสริมข้อมูล ข้อเท็จจริง และความรู้ต่างๆ เพื่อนำไปสู่การระดมความคิด กระบวนการตัดสินใจ และการแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเน้นการสื่อสารสาธารณะที่มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของความจริง และข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และส่งเสริมให้นักอุตสาหกรรมที่มีความรู้ ความสามารถ และมีจิตสาธารณะเข้ามาร่วมงานใน ส.อ.ท. เพื่อให้เกิดความแข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น

สำหรับยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม 6 ด้าน จะได้รับการผลักดันให้เชื่อมโยงและบูรณาการกับยุทธศาสตร์ของ ส.อ.ท. ทั้งจากยุทธศาสตร์กลุ่มอุตสาหกรรม และยุทธศาสตร์จังหวัด และภูมิภาค ได้แก่

1. สร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทยด้วยประสิทธิภาพ ผลิตภาพ และนวัตกรรม

2. พัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ยั่งยืนด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

3. สร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมไทยด้วยการรวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์

4. สร้างโอกาสให้อุตสาหกรรมไทยใช้ประโยชน์จากการเจรจาการค้า

5. พัฒนาบุคลากรเพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมไทย

6. ร่วมกับภาครัฐในการสร้างปัจจัยเอื้อต่อภาคอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ได้จัดทำกลไกหลักของ ส.อ.ท. ในการทำงานเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม โดยได้แบ่งหน่วยงานภายในองค์กรไว้ดังนี้ กลุ่มเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน ประกอบด้วย สถาบันรหัสสากล GS-1, สถาบันส่งเสริมความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีแห่งประเทศไทย RFID,สถาบันวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม IRDI, สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่ออุตสาหกรรม ICTI, สถาบันเสริมสร้างขีดความสามารถมนุษย์ HCI, สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต SMI, สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม IIE, และ Industry 4.0

กลุ่มสัมพันธ์สมาชิก ประกอบด้วย งานส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรม (45 กลุ่มอุตสาหกรรม), งานกิจการสภาอุตสาหกรรมจังหวัด (74 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด) และงานสมาชิกสัมพันธ์

กลุ่มปัจจัยพื้นฐาน ประกอบด้วย งานเศรษฐกิจ, งานส่งเสริมการค้าการลงทุน, งานวิชาการ, งานส่งเสริมการค้าชายแดนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ, งานโลจิสติกส์, งานกฎหมาย, งานพิธีการต่างประเทศ และงานแรงงาน

กลุ่มสื่อสารสาธารณะ ประกอบด้วย งานประชาสัมพันธ์, งานรายได้, งานกิจกรรมเพื่อสังคม, Young FTI, สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม TIPMSE,สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม IEI และสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน WIS

นายเจน กล่าวต่อว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยขณะนี้มองว่ายังเปราะบางเนื่องจากหลายปัจจัยยังกดดัน ปัจจัยภายใน คือ ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร ปัจจัยภายนอก คือ เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะ 4 ตลาดหลัก คือ สหรัฐอเมริกาที่มีการเลือกตั้ง จีน ยุโรป และญี่ปุ่น ความผันผวนของราคาน้ำมัน เหล่านี้คือปัจจัยที่จะทำให้เกิดความผันผวนได้ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยก็ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวชัดขึ้น แต่สมาชิกต้องดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังติดตามสถานการณ์โลกอย่างใกล้ชิด

ประธานส.อ.ท.กล่าวว่า ส.อ.ท.ยังมอง GDP น่าจะเติบโตได้ 3-3.5% สอดคล้องกับที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) คาดการณ์ ส่วนค่าเงินบาทก็ควรเกาะกลุ่มประเทศในอาเซียน ขณะเดียวกันต้องจับตาภัยแล้งและการเคลื่อนย้ายเงินทุน โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายเงินทุนซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินบาท

"เราไม่อยากให้การเคลื่อนย้ายเงินทุนเป็นสาเหตุที่ทำให้เราสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เพราะถ้าเกิดขึ้นแล้วแก้ไขยาก"

สำหรับ Industry 4.0 ส.อ.ท.กำลังร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลทำแบบประเมินตนเอง เพื่อให้อุตสาหกรรมเกิดความตระหนักว่าธุรกิจมีความจำเป็นต้องพัฒนา และดูว่าการจะเข้าไปสู่ Industry 4.0 ยังขาดอะไรบ้าง และ ส.อ.ท.จะดูว่าจะมีมาตรการอะไรบ้างที่จะช่วยเหลือธุรกิจของสมาชิกเพื่อให้เข้าไปสู่ Industry 4.0 โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ คือ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศ กระทรวงวิทยาศาสตร์มาร่วมประชุม กับ ส.อ.ท.

ทั้งนี้ กลุ่มกิจการที่น่าจะพร้อมเข้าสู่ Industry 4.0 ได้เร็ว คือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้หุ่นยนต์ซึ่งมีความพร้อมมากที่สุด เพียงแค่ดึงข้อมูลจากเครื่องจักรอุปกรณ์มาเชื่อมโยงกัน ซึ่งจะใช้การลงทุนเพิ่มอีกไม่เท่าไหร่ก็สามารถเข้าสู่ยุค 4.0 ได้

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้แปลว่าเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีหุ่นยนต์เท่านั้นที่จะเข้าสู่ Industry 4.0 ได้ เพราะข้อดีของ Industry 4.0 มีค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ส่วนสูญเสียน้อยลง ทำสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้ พัฒนาสินค้าให้มีความแตกต่างจากคนอื่น ซึ่ง Industry 4.0 จะตอบโจทย์เหล่านี้ได้

"น่าประหลาดใจว่าอุตสาหกรรมอัญมณีก็สนใจ Industry 4.0 ทั้งๆที่เป็นอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานฝีมือเป็นหลัก แต่มันก็มีเรื่องของ 3D Printer ในการออกแบบ ก็มีส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ Industry 4.0 อีกทั้งวัสดุที่ใช้ในอุตสาหกรรมอัญมณีมีราคาแพง ทั้งทองคำ เงิน แพลตินั่ม ถ้าเข้า Industry 4.0 ก็จะช่วยลดการสูญเสีย ช่วยลดต้นทุนได้เยอะ"

ด้านแหล่งข่าวจาก ส.อ.ท. กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังแก้ไขเศรษฐกิจมาได้ถูกทาง การเดินหน้านโยบายและการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็เริ่มเห็นผลในทางที่ดีขึ้น เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว การส่งออกกลับมาเดินหน้าได้ อาจจะเป็นเพราะทีมเศรษฐกิจทำงานเข้าขากันได้ดี ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนใคร ต้องดูว่าจะหาใครมาทำงานแทนได้ในช่วงเวลานี้

"เศรษฐกิจไทยยังไม่มีความแน่นอน เพราะจีน อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่นยังมีความเปราะบางทางเศรษฐกิจ ค่าเงินบาทแข็งค่า 3% เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่นที่เงินเยนแข็งค่า 12%...ทุกคนมองภาพส่งออกดี +0.9% เพราะว่ามันรวมทองคำ แต่ถ้าตัดทองคำออก ส่งออกเราติดลบ -4.46% เพราะทองคำเราซื้อมาขายไปไม่นับเป็นเรื่องของการส่งออก"

ทั้งนี้ มองว่าค่าเงินบาทช่วงนี้ที่ระดับ 35.00-35.50 บาท/ดอลลาร์ยังพอไหว แต่หลังจากนี้ต้องดูว่าสหรัฐฯ จะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ