นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับภาคเอกชนกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหนัก เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า กรมได้เชิญสมาคมสำคัญในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมหนักกว่า 10 สมาคม พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า สำนักมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าประชุมหารือและรับฟังความคิดเห็น เพื่อใช้ประเมินสถานการณ์การส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนักและความเป็นไปได้ในการขยายการส่งออกให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ตามเป้าส่งออกที่รัฐบาลตั้งไว้
ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้นสามารถแบ่งสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มจะขยายตัวได้ดี ประกอบด้วย กลุ่มสินค้ายานยนต์ (คาดการณ์ขยายตัวร้อยละ 5) ชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ (คาดการณ์ขยายตัวร้อยละ 5) เครื่องปรับอากาศ (คาดการณ์ขยายตัวร้อยละ 10) ไม้ยางพาราและชีวมวลอัดแท่ง Wood Pellet (คาดการณ์ขยายตัวร้อยละ 20) และเครื่องจักรกลการเกษตร (คาดการณ์ขยายตัวร้อยละ 20) 2) กลุ่มสินค้าที่น่าจะมีมูลค่าการส่งออกใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ประกอบด้วย กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์พลาสติก และยางยานพาหนะ และกลุ่มสินค้าที่น่าจะมีมูลค่าการส่งออกน้อยลงกว่าปีที่แล้ว ประกอบด้วย กลุ่มสินค้ายางพาราธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น
ส่วนอุปสรรคสำคัญที่มีผลต่อการส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนัก ได้แก่ เงินบาทซึ่งยังคงอ่อนตัวน้อยกว่าค่าเงินของประเทศคู่แข่งมาก การวิจัยและพัฒนาเพื่อยกระดับสินค้าไทยสู่ระดับสากล การถูกกีดกันทางการค้าด้วยมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีจากประเทศคู่ค้า และมาตรฐานสินค้าของชิ้นส่วนที่นำเข้ามาใช้เพื่อการส่งออก เป็นต้น ซึ่งประเด็นเหล่านี้ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในปัจจุบัน
“กรมจะรวบรวมนำประเด็นปัญหาทั้งหมดเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ (พกค.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อให้พิจารณาดำเนินการแก้ไขขจัดอุปสรรคทางการค้าดังกล่าวอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ กรมมีกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการส่งออกในตลาดใหม่ ๆ อาทิ ตลาดเออีซี ตลาดละตินอเมริกา และตลาดแอฟริกา เพื่อเร่งรัดการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมหนักควบคู่ไปอีกทางหนึ่งด้วย" อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าว
สำหรับสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนัก อาทิ สินค้ายานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์ เครื่องไช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ วัสดุก่อสร้าง เครื่องจักรกลและเครื่องจักรกลการเกษตร ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติก ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และพลังงาน มีมูลค่าการส่งออก 3 เดือนแรกปี 2559 (ม.ค. – มี.ค.) รวมทั้งสิ้น 32,270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวลดลงในอัตราร้อยละ 4.91 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 59.95 ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งประเทศ