พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง ในเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ไปให้บุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่รวมบุตรบุญธรรมให้ได้คนละ 20 ล้านบาท/ปี โดยไม่ต้องเสียภาษี ทั้งนี้ จะมีผลกับการโอนอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 1 ก.พ.59 เป็นต้นไป
"เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ถ้ามีลูกคนเดียวก็ให้ตามนี้ไม่เกินคนละ 20 ล้านบาท แต่ถ้าสมมติมี 3 คน ก็ให้ได้ตามนี้ คือคนละไม่เกิน 20 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับความเป็นจริง" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ทั้งนี้ ครม.ได้เห็นชอบหลักการปรับปรุงการยกเว้นภาษีเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทน พร้อมอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป
"เพื่อให้การแก้ไขปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้จากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีค่าตอบแทนให้แก่บุตรชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งไม่รวมถึงบุตรบุญธรรม มีความสอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะหรือจากการให้โดยเสน่หาจากบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส ซึ่งได้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.59 จึงต้องแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 40) พ.ศ.2558 เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดก พ.ศ.2558 และทำให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างผู้เสียภาษีที่มีบุตรคนเดียวหรือบุตรหลายคน" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังยอมรับว่าอาจมีผลกระทบต่อรายได้ของภาครัฐบาลเล็กน้อย แต่จะก่อให้เกิดความเป็นธรรมและความสมัครใจในการเสียภาษี ทำให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างรายได้ในระยะยาวต่อไป