(เพิ่มเติม) ทริสเรทติ้ง คาด ศก.ไทยปี 59 โต 2.7-3.0% อ่อนตัวต่อเนื่อง,ธุรกิจแบงก์ชะลอ-จับตาคุณภาพสินเชื่อ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 12, 2016 16:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วัฒนา ถิรานุชิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 59 คาดว่าจะยังคงอ่อนตัวต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีอัตราการขยายตัวระหว่าง 2.7-3.0% จากปีก่อนที่ขยายตัวราว 2.8% ซึ่งต่ำกว่าศักยภาพของประเทศที่เคยขยายตัวเฉลี่ย 4.5% ในช่วงปี 43-55

ปัจจัยสนับสนุนหลักของเศรษฐกิจในปีนี้มาจากมาตรการของรัฐบาลในการกระตุ้นการบริโภคในประเทศและการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชน รวมทั้งการฟื้นตัวของราคาสินค้าเกษตรที่จะส่งผลต่อรายได้ของเกษตรกร

ขณะที่ปัจจัยลบที่ยังคงมีอยู่ ได้แก่ การฟื้นตัวที่ต่ำกว่าคาดของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญของประเทศไทยโดยเฉพาะจีน อาเซียน และญี่ปุ่น ในขณะที่มาตรการที่มีลักษณะเป็นการกีดกันทางการค้าสินค้าเกษตรส่งออกของไทยในอเมริกาและยุโรปมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมทั้งผลกระทบจากภาวะภัยแล้งและสภาพภูมิอากาศที่อาจะกระทบต่อผลผลิตในประเทศ

น.ส.วัฒนา กล่าวว่า ดัชนีทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 59 ฟื้นตัวเล็กน้อยของการบริโภคภาคเอกชน และการเพิ่มขึ้นของผลผลิตและราคาสินค้าเกษตร ดังนั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐยังมีความจำเป็นเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน

สำหรับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในปี 59 มีแนวโน้มคงที่ถึงติดลบ โดยคาดว่าอัตราการเติบโตของสินเชื่อยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 58 และความสามารถในการทำกำไรมีแนวโน้มทรงตัวถึงลดลงจากปีก่อนเนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ตลอดจนภาระหนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้มีหนี้เสียเพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรลดลงจากภาระการสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น

"ในช่วงไตรมาสแรกของปี 59 ผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ยังไม่สอบทานก็ยังคงบ่งบอกแนวโน้มของการลดลงในความสามารถทำกำไรอย่างต่อเนื่อง"น.ส.วัฒนา กล่าว

ทริสเรทติ้ง คาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ในปี 59 จะมีอัตรา 3-5% สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และได้รับผลบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงการขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมขนส่ง แต่ความสามารถในการทำกำไรยังได้รับแรงกดดันจากภาระการสำรองหนี้สูญที่เพิ่มขึ้น การถดถอยของคุณภาพสินทรัพย์ ยังเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาใกล้ชิดต่อไป

ส่วนธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีแนวโน้มคงที่ การขยายตัวยังคงจำกัด เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 58 จากผลกระทบของโครงการรถยนต์คันแรก และเศรษฐกิจปีนี้ที่ชะลอตัว ทำให้คาดว่าการขยายตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ยังคงจำกัด ขณะที่คุณภาพสินเชื่อน่าจะมีทิศทางทรงตัวถึงลดลง

ด้านธุรกิจการเกษตรมีแนวโน้มคงที่ถึงติดลบ แต่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในบางกลุ่มหลังจากที่กำไรของบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมลดลงจากราคารตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา โดยธุรกิจน้ำตาลเริ่มฟื้นตัว แต่มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องสภาพอากาศ ธุรกิจไก่และหมูจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงและราคาฟื้นตัวขึ้น ส่วนธุรกิจอาหารทะเลต้องจับตาดูเรื่องการแก้ปัญหา IUU

ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มคงที่ถึงติดลบเช่นกันเนื่องจากสภาพตลาดค่อนข้างอิ่มตัว การแข่งขันยังคงรุนแรง และผู้ประกอบการมีต้นทุนสูงในเรื่องค่าใบอนุญาต การลงทุนขยายโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง และภารหนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ผลประกอบการจะถูกกดดันจากการแข่งขันสูง และข้อกำหนดของทางการที่ควบคุมราคาค่าบริการ

ธุรกิจที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มคงที่ โดยยอดขายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอาจเติบโตเพียงเล็กน้อย ขณะที่ความต้องการในต่างจังหวัดลดลงจากปัญหากำลังซื้อที่ลดลง ราคาที่อยู่อาศัยยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเมือง จากราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แม้ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงจะทรงตัวตาม อัตรากำไรของผู้ประกอบการหลายรายมีแนวโน้มปรับลดลง จากการแข่งขันทวีความรุนแรงในสินค้าทุกระดับราคา และทำให้ผู้ประกอบการบางรายเริ่มหันไปเน้นลูกค้าต่างชาติมากขึ้น

ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวมีแนวโน้มเป็นบวก เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ค่าครองชีพไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับประเทศรอบข้าง การเติบโตของเศรษฐกิจประเทศเอเชีย โดยเฉพาะจีน กระตุ้นให้ความต้องการท่องเที่ยวเติบโตสูงมากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ช่วยลดทอนผลกระทบบางส่วนจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ การเมือง และภัยธรรมชาติในประเทศ โดยรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 5% ของ GDP ในปี 53 เป็น 11% ของ GDP ในปี 58


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ