พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยพัฒนาคุณภาพสินค้าโอท็อป(OTOP) เพื่อนำไปจำหน่ายบนเครื่องบิน แนะนำให้ผู้โดยสารทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้รู้จักและซื้อหาเป็นของฝากหรือที่ระลึกจากประเทศไทย ล่าสุด มท. ได้ร่วมกับบมจ. การบินไทย (THAI) คัดเลือกและถ่ายภาพสินค้าโอท็อปที่มีศักยภาพ เพื่อจัดทำแคตตาล็อกเสร็จแล้ว จำนวน 21 รายการ 128 ผลิตภัณฑ์
“ตัวอย่างสินค้าเกรดพรีเมี่ยมที่ได้รับคัดเลือกไปจำหน่าย เช่น เครื่องประดับเงินโบราณสุโขทัย ซึ่งมีทั้งสร้อยคอ กำไลข้อมือ แหวน ต่างหู นอกจากนี้ ยังมีเครื่องจักสานย่านลิเภาเมืองนคร ที่มีความประณีตงดงาม และเครื่องเบญจรงค์บ้านดอนไก่ดี ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยและเป็นสินค้าสุดยอดโอท็อปที่มีชื่อเสียงไกลไปถึงต่างประเทศ"
พลตรีสรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้ผู้ประกอบการสินค้าโอท็อปมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางขึ้น เพราะในปัจจุบันนี้สินค้าโอท็อปของไทยได้รับความนิยมจากลูกค้าต่างประเทศ และสายการบินไทยเองก็มีผู้โดยสารจากหลากหลายประเทศทั่วโลก และทำการบินวันละหลายเที่ยว จึงน่าจะช่วยขยายตลาดให้สินค้าของไทยได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งขอให้ผู้ประกอบการพัฒนาคุณภาพของโอท็อปด้วยนวัตกรรม ช่วยเพิ่มมูลค่า และรักษามาตรฐานสินค้าไทยที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
“ในระยะที่ 1 ตั้งแต่ พ.ค.59 จะเริ่มขายสินค้าผ่านแคตตาล็อกบนเครื่องบินและผ่านระบบออนไลน์ thailandmall.net โดยรับสินค้าได้ทั้งบนเครื่อง (ถ้ามีสินค้า) หรือที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือให้จัดส่งไปตามที่อยู่ในใบสั่งซื้อก็ได้ จากนั้นในระยะที่ 2 จะเริ่มดำเนินการในเดือน ก.ค.59 โดยจะขายสินค้าโอท็อปบนเครื่องบิน จำนวน 10 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เนคไท ผ้าพันคอ เครื่องบำรุงผิวจากผลิตภัณฑ์มะพร้าว พวงกุญแจ สร้อยคอ กล่องใส่จิวเวอรี่ สร้อยข้อมือพลอย ต่างหูพลอย สร้อยข้อมือหนัง และเปิดร้านค้าโอท็อปในสนามบินสุวรรณภูมิ"โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว