นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 17-20 พ.ค.นี้ จะร่วมคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหพันธรัฐรัสเซียสมัยพิเศษ ซึ่งจะจัดขึ้นที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กิจกรรมสำคัญจะเป็นการพบหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีสหพันธรัฐรัสเซีย และนายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย
ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มีประเด็นสำคัญที่จะมีการหารือประกอบด้วย การตั้งเป้าหมายการค้าสองฝ่ายเพิ่มขึ้น 5 เท่าใน 5 ปี การริเริ่มเพื่อนำไปสู่การจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย (EAEU) รวมทั้งจะมีการลงนามจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการขยายความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงพาณิชย์ของราชอาณาจักรไทยและกระทรวงพัฒนาเศรษฐกิจของสหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อขยายและยกระดับความสัมพันธ์ด้านการค้าของทั้งสองประเทศเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ภาคเอกชนจะเดินทางไปจับคู่ทางธุรกิจให้กับนักธุรกิจระดับสูงของไทยที่เดินทางร่วมคณะนายกรัฐมนตรี จำนวน 24 บริษัท กลุ่มสินค้าอาหาร ยางพารา อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคส์กลุ่มสถาบันการเงิน เพื่อสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมการค้าระหว่างไทยและสหพันธรัฐรัสเซีย
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-รัสเซีย สมัยพิเศษ ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองโซชิ โดยจะมีการรับรองเอกสาร 3 ฉบับ ได้แก่ 1. ปฏิญญาโซชิระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย 2. ร่างแผนปฏิบัติการอย่างครอบคลุมเพื่อส่งเสริมความร่มมือระหว่างอาเซียนกับสหพันธรัฐรัสเซีย ปี 2559-2563 และ 3. รายงานข้อเสนอแนะของกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์หลายมิติในอนาคตของอาเซียน-รัสเซีย
"การเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ จะแสดงให้เห็นว่าไทยมีความพร้อมในการมีส่วนร่วมการดำเนินงานในกรอบความร่วมมือต่างๆ ระหว่างอาเซียนและรัสเซีย นอกจากนี้ จะมีการจัดการประชุมหารือระหว่างนักธุรกิจระดับสูงอาเซียนและรัสเซียเป็นครั้งแรก เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน" รมว.พาณิชย์ กล่าว
รัสเซียนับเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของไทยในภูมิภาคยูเรเซีย มีประชากรกว่า 142 ล้านคน มีจุดเด่นด้านทรัพยากรธรรมชาติทางพลังงานที่สำคัญของโลก ทั้งถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับสูง ในปี 2558 มีมูลค่าการค้าไทย-รัสเซียรวม 2,355 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 70,650 ล้านบาท สินค้าที่ไทยส่งออก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยางพารา อัญมณีและเครื่องประดับ และผลไม้แปรรูป เป็นต้น สินค้าที่ไทยนำเข้า ได้แก่ น้ำมันดิบ ปุ๋ย เหล็กและผลิตภัณฑ์ และสินแร่โลหะ เป็นต้น
รมว.พาณิชย์ กล่าวด้วยว่า การเดินทางไปครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดในกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย ซึ่งมีทั้งหมด 5 ประเทศ คือ รัสเซีย คาซัคสถาน เบรารุส อาเมเนีย และคีร์กีซสถาน ซึ่งปัจจุบันมีนโยบายเปิดตลาดโดยเฉพาะกับเอเซียมากขึ้น