7 สมาคมเหล็กยันไทยไร้ปัญหาเหล็กขาดตลาดเหตุมีกำลังผลิตเกินความต้องการ ย้ำราคาขึ้นเป็นไปตามกลไก

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 18, 2016 17:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน วิริยประไพกิจ ในฐานะตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย 7 สมาคม ยืนยันไร้ปัญหาเหล็กขาดตลาด โดยกำลังการผลิตรวมของโรงงานใน 7 สมาคมฯ มีมากถึง 25 ล้านตันต่อปี ขณะที่ปัจจุบันได้ใช้กำลังการผลิตเพียง 40% สามารถผลิตสินค้าเหล็กออกมาราว 10 ล้านตันต่อปี เมื่อรวมกับสินค้าเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศราว 7 ล้านตันต่อปี สามารถรองรับความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยราว 17 ล้านตันต่อปีได้ แม้ความต้องการใช้เหล็กจะเพิ่มขึ้นอีกราว 5% เป็น 18 ล้านตันต่อปี ตามทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ตลอดจนการลงทุนในเมกะโปรเจคต่างๆ อุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศซึ่งยังเหลือกำลังการผลิตอีก 15 ล้านตันต่อปี ก็สามารถรองรับความต้องการในระดับดังกล่าวได้

สำหรับตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย 7 สมาคม ได้แก่ สมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย, สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น, สมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์คไฟฟ้า, สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน, สมาคมการค้าผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี เป็นต้น มีสมาชิกกว่า 470 บริษัท

ส่วนข่าวสินค้าเหล็กขาดตลาดนั้นมีสาเหตุหลักมาจากการเก็งกำไรสินค้าเหล็กในตลาดโภคภัณฑ์ล่วงหน้าของประเทศจีน ทำให้ราคาสินค้าเหล็กในประเทศจีนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นกว่า 70% ซึ่งถือว่าเป็นการขึ้นราคารุนแรงผิดปกติจากภูมิภาคอื่นๆ ของโลก ทำให้รัฐบาลจีนต้องกำหนดมาตรการป้องกันแก้ไขพฤติกรรมการเก็งกำไร

อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวทำให้ผู้ส่งออกของจีนหลายรายยกเลิกการออกส่งสินค้าเหล็กในราคาเดิมที่ตกลงไว้ก่อนหน้า สร้างความเดือดร้อนต่อลูกค้าต่างประเทศ และมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องมายังตลาดเหล็กในประเทศไทย

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย ระบุว่าสินค้าเหล็กที่มีการนำเข้ามายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกมีราคาปรับสูงขึ้นระหว่าง 6-30% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาสินค้าเหล็กในประเทศไทยที่ปรับขึ้นนั้นสอดคล้องกับระดับต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นจากภาวะตลาดโลก และเป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งเป็นการฟื้นตัวจากช่วงก่อนหน้านี้ที่ผู้ผลิตสินค้าเหล็กในประเทศจำเป็นต้องขายสินค้าต่ำกว่าต้นทุนเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดและประคองธุรกิจให้ยังคงสามารถดำเนินต่อไปได้

"ราคาสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนของไทยเมื่อปี 2555 หรือเมื่อ 5 ปีก่อนอยู่ที่ 23,250 บาทต่อตัน หลังจากนั้นราคาได้ตกต่ำอย่างต่อเนื่องหลายปี ตามภาวะถดถอยของตลาดเหล็กโลก และการทุ่มตลาดสินค้าเหล็กจากจีนไปทั่วโลก จนราคาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปลายปี 2558 ที่ 13,300 บาทต่อตัน ซึ่งต่ำกว่าปี 2555 ถึง 43% แต่ในปี 2559 ราคาสินค้าเหล็กได้พ้นจุดต่ำสุดและเริ่มปรับตัวขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบและตลาดโลก แต่ก็ไม่ใช่ราคาที่สูงผิดปกติ เพราะระดับราคาปัจจุบันก็ยังต่ำกว่าราคาปี 2555 กว่า 20% โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ผลิตแต่ละรายถูกตรวจสอบ และควบคุมราคาสินค้าเหล็กอย่างเข้มงวด โดยต้องรายงานราคาสินค้าเหล็กเป็นรายวันต่อกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์" นายวิน กล่าว

นายวิน กล่าวว่า ทั้ง 7 สมาคมฯ ขอยืนยันว่าจะดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม และผลประโยชน์ส่วนรวมในระยะยาว รวมทั้งดูแลไม่ให้ผู้จำหน่ายปรับราคาสูงเกินความเป็นจริง หากพบผู้จำหน่ายมีการกักตุนสินค้า ไม่ส่งมอบสินค้าให้ผู้ใช้ ทางผู้ผลิตจะใช้มาตรการทางการค้าที่จำเป็น เพื่อเร่งให้ส่งมอบสินค้าเหล็กให้ได้ตามที่ผู้ใช้ต้องการ

นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานร่วม เพื่อเป็นช่องทางรับทราบสำหรับควบคุมแก้ไขปัญหา และจะประสานรายงานเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงพาณิชย์ทราบโดยใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็ก และเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ