(เพิ่มเติม) กรมธนารักษ์ เตรียมพัฒนากระบวนการผลิต-การตลาดรูปแบบใหม่ ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเหรียญระดับสากล

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 19, 2016 13:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า กรมฯ จะนำข้อมูลความรู้ที่ได้จากการเป็นเจ้าภาพในการจัดงานประชุมผู้บริหารโรงกษาปณ์โลก Mint Directors Conference หรือ MDC ครั้งที่ 29 มาพัฒนากระบวนการผลิตและการบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ และยกระดับการตลาดเหรียญกษาปณ์รูปแบบใหม่ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตเหรียญระดับสากล

โดยในขณะนี้มีประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว และกัมพูชา สนใจให้โรงกษาปณ์ของไทยผลิตเหรียญเงินเพื่อใช้ในประเทศ โดยในส่วนของลาวนั้น ไทยได้เสนอจะผลิตเหรียญเพื่อใช้ทดแทนธนบัตรราคา 500 กีบ และ 1,000 กีบ และได้มีการออกแบบตัวอย่างเหรียญให้แล้ว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาจากธนาคารชาติของประเทศลาว

“เราเสนอที่จะผลิตเหรียญให้เขาเพื่อใช้แทนแบงก์ 500 กีบ และแบงก์ 1,000 กีบ ซึ่งต้นทุนของเหรียญถือว่าต่ำกว่าต้นทุนการผลิตธนบัตรมาก เนื่องจากธนบัตรของลาวมีมูลค่าน้อย จึงไม่คุ้ม เราออกแบบไปแล้ว เขามีความสนใจมาก และกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาของแบงก์ชาติลาว ส่วนเขมร เราได้หารือกันเบื้องต้นแล้ว และนัดหารือกันอีกครั้งเดือน ส.ค.นี้" อธิบดีกรมธนารักษ์ ระบุ

อนึ่ง ผลสำเร็จจากการประชุมครั้งนี้ ทำให้ได้รับความรู้และเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านการผลิต และการบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ รวมถึงความรู้ด้านการตลาดเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกและเหรียญที่ระลึกโลหะมีค่า ตัวอย่างหัวข้อบรรยายที่น่าสนใจ เช่น เรื่อง The Cost and Future of Payments เป็นผลงานวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทยเปรียบเทียบต้นทุนการชำระเงิน ด้วยวิธีการต่าง ๆ (เงินสด เครดิตการ์ด และเดบิดการ์ด) กับแนวโน้มวิธีการชำระเงินในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือ (ประเทศสหรัฐอเมริกา) กลุ่มประเทศยุโรป (อังกฤษ สวีเดน เนเธอร์แลนด์) ประเทศเกาหลีใต้ และกลุ่มประเทศอาเซียน (ไทยและมาเลเซีย) สำหรับด้านเทคนิคการผลิตหัวข้อที่น่าสนใจจะเป็นเรื่องการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเหรียญโลหะใหม่ ๆ เพื่อป้องกันการปลอมแปลง ที่นำเสนอมีเหรียญโลหะสามสี (Tri-metallic coins) ทำด้วยโลหะสามประเภทประกอบกัน (วงนอก วงใน และแกนกลาง)

ส่วนด้านการตลาดมีหัวข้อที่น่าสนใจคือเรื่องเทคนิคการประชาสัมพันธ์เหรียญออกใหม่ ให้ประชาชนได้รับความรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของรูปแบบด้านหน้าและด้านหลัง มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทุกคนโดยเฉพาะเด็ก ๆ และเยาวชน ได้มีส่วนร่วม รวมทั้งการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทางสื่อสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ เกม และซอฟต์แวร์บนมือถือ

นอกจากนี้ การประชุมครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่โรงกษาปณ์ไทยได้เผยแพร่ผลงานที่มีความประณีตอันเป็นจุดเด่นของช่างฝีมือไทยให้นานาชาติได้รู้จัก รวมทั้งได้มีโอกาสเจรจาทางธุรกิจกับตัวแทนขายเหรียญในหลาย ๆ ประเทศที่เข้าร่วมประชุม เกี่ยวกับการจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกช้างไทยในต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการเปิดตลาดเหรียญครั้งแรกของไทยอีกด้วย อีกทั้งการประชุมในครั้งนี้ ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ติดตาม รวมทั้งเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนานาชาติ ตลอดจนส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้เข้าร่วมประชุมและผู้ติดตามมากยิ่งขึ้น

สำหรับการจัดงานประชุมผู้บริหารโรงกษาปณ์โลก Mint Directors Conference หรือ MDC ครั้งต่อไปจะเป็นครั้งที่ 30 ในปี 2561 ได้มีกำหนดจัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้กรมธนารักษ์มีกำหนดออกเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเนื่องในวโรกาสสำคัญ 2 วาระ คือ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559 และเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 และเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ด้านการอนุรักษ์ช้างป่า กรมธนารักษ์จะนำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกช้างไทยออกจำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศไทยในวันที่ 9 มิถุนายนนี้ ด้วย

“กรมธนารักษ์ได้เตรียมนำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกช้างไทยออกจำหน่าย ซึ่งจะมีการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.59 และถือเป็นครั้งแรกที่มีการจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกของไทยในต่างประเทศ โดยจะมีการจำหน่ายผ่านตัวแทน (ดีลเลอร์) ทั้งนี้เชื่อว่าเหรียญกษาปณ์ช้างไทยจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักสะสม “ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าว

สำหรับประเภทของเหรียญกษาปณ์ช้างไทยที่จัดจำหน่ายในครั้งนี้ จะแบ่งเป็น เหรียญทองคำใหญ่ จำนวน 1,000 เหรียญ น้ำหนัก 31.21 กรัม ราคาเหรียญละ 75,000 บาท, เหรียญทองคำเล็ก จำนวน 2,000 เหรียญ น้ำหนัก 7.8 กรัม ราคาเหรียญละ 23,000 บาท และเหรียญเงินขัดเงา จำนวน 5,000 เหรียญ ราคาเหรียญละ 3,200 บาท โดยจะแบ่งสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศไว้ที่ 70-80% และในต่างประเทศ 20-30%

“การจำหน่ายเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในครั้งนี้ เราไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้หรือยอดขาย แต่เรามุ่งหวังในเรื่องการนำชื่อเสียงของประเทศไทยด้านการผลิตเหรียญกษาปณ์ให้ต่างประเทศได้รู้จัก ซึ่งในอนาคตจะนำมาซึ่งการจ้างโรงกษาปณ์ของไทยในการผลิตเหรียญมากขึ้น" นายจักรกฤศฎิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ