นายมงคล พิพัฒสัตยานุวงศ์ นายกสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ เปิดเผยว่า สถานการณ์ความร้อนสูงและภัยแล้งที่คุกคามประเทศไทยในปัจจุบัน ทำให้แม่ไก่เกิดความเครียดสุขภาพแย่ลง และอัตราการให้ไข่ลดลง ขณะที่เกษตรกรบางพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำใช้จากภาวะแล้งจัด จึงจำเป็นต้องปลดแม่ไก่ยืนกรงออกและหยุดเลี้ยงชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ปัจจุบันพบว่าปัญหาดังกล่าวทำให้ผลผลิตไข่ไก่เสียหายแล้วถึง 10-15% หรือประมาณ 4-5 ล้านฟองต่อวัน สวนทางกับการบริโภคที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากเข้าสู่ช่วงเปิดภาคเรียน
"อากาศที่ร้อนจัดอุณหภูมิภายนอกสูงกว่า 40 องศาในปัจจุบัน ทำให้ประสิทธิภาพของระบบทำความเย็นในโรงเรือนลดลง ขณะเดียวกัน ระบบทำความเย็นที่จำเป็นต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาทำให้เกษตรกรหลายพื้นที่ที่ยังประสบปัญหาภัยแล้งต้องซื้อน้ำมาใช้ เป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" นายมงคล กล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาราคาไข่ไก่ตกต่ำมาตลอด เกษตรกรต้องขายไข่ไก่ในราคาต่ำกว่าทุน โดยเฉพาะในช่วงปิดภาคเรียนกว่า 3 เดือนก่อนหน้านี้ อัตราการบริโภคก็ลดลงการซื้อขายไข่ไก่ไม่ได้คึกคักดังเช่นปัจจุบัน
โดยตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันราคาไข่ไก่เฉลี่ยอยู่ที่ฟองละ 2.57 บาท และราคาเคยตกลงไปเหลือเพียงฟองละ 2 บาท ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงไก่ไข่เฉลี่ยสูงถึง 2.82 บาทต่อฟอง
“ราคาไข่ไก่ที่ปรับขึ้นบ้างในช่วงนี้เป็นไปตามกลไกตลาด จากปริมาณผลผลิตที่ลดลงสวนทางกับการบริโภคที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามราคาที่ปรับขึ้นยังไม่สามารถชดเชยกับภาวะขาดทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับภาระมานานกว่า 17 เดือน จึงอยากให้ผู้บริโภคเห็นใจเกษตรกรด้วย" นายมงคล กล่าว