นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยผลการยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 1.19 ล้านตันว่า มีผู้มายื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐ จำนวน 48 ราย โดยถูกต้องตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขทั้ง 48 ราย ซึ่งมีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 31 ราย ใน 118 คลัง ปริมาณ 1.175 ล้านตัน (คิดเป็น 98% ของปริมาณที่เปิดประมูล) มูลค่าที่เสนอซื้อประมาณ 10,046 ล้านบาท ทั้งนี้ ชนิดข้าวที่มีผู้เสนอราคาซื้อมากที่สุดเป็นปลายข้าว A1 เลิศ ปริมาณ 390,311 ตัน คิดเป็น 32% รองลงมาได้แก่ ข้าวขาว 5% และข้าวท่อนหอมมะลิ"อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าว
โดยมีเพียง 2 คลังที่ไม่มีการเสนอซื้อ คิดเป็นปริมาณ 16,700 ตันเท่านั้น ส่วนราคาพบว่ามีการเสนอซื้อปลายข้าวเอวันเลิศเฉลี่ยตันละ 7,879 บาท ซึ่งเป็นชนิดข้าวที่นำออกมาเปิดประมูลในรอบนี้มากสุดถึง 700,000 ตัน ส่วนข้าวขาว 5% ราคาเสนอซื้อเฉลี่ยตันละ 11,200 บาท และข้าวขาว 10% เฉลี่ยตันละ 10,500 บาท
อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่ได้ผู้เสนอซื้อสูงสุดสำหรับการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐเป็นการทั่วไป ครั้งที่ 3/2559 แล้ว กรมการค้าต่างประเทศจะดำเนินการรวบรวมผลให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสต็อกของรัฐพิจารณา ก่อนนำเสนอให้ประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐต่อไป
"พอใจกับการเสนอราคาครั้งนี้ โดยราคาข้าวขาว 5% ในตลาดปัจจุบันอยู่ที่ตันละประมาณ 14,000 บาท ข้าวขาว 10% ตันละ 13,900 บาท และปลายข้าวเอวันเลิศ ตันละ 11,000 บาท ซึ่งข้าวรัฐบาลเป็นข้าวเก่า ราคาจึงต่ำกว่าตลาด แต่ก็เป็นระดับราคาที่ใช้ได้ คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) อนุมัติได้ในเร็วๆ นี้ ถ้าขายหมดจะทำให้สต๊อกข้าวรัฐเหลือราว 10 ล้านตัน จากปัจจุบันราว 11.4 ล้านตัน" นางดวงพร กล่าว
อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ที่รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐบาลแล้วรวม 14 ครั้ง (ไม่รวมการประมูลวันที่ 19 พ.ค.) ระบายข้าวได้แล้ว 5.4 ล้านตัน มูลค่า 57,600 ล้านบาท หากการประมูลวันที่ 19 พ.ค. อนุมัติขายทั้งหมด จะทำให้รัฐระบายข้าวแล้ว 6.5 ล้านตัน มูลค่าประมาณ 67,600 ล้านบาท
ส่วนกรณีที่ราคาข้าวเหนียวมีราคาสูงกว่าข้าวหอมมะลิตันละ 1,000-2,000 บาทนั้น จากการตรวจสอบพบว่า ผลผลิตข้าวเหนียวในปีนี้ลดลง เพราะชาวนาหันไปปลูกข้าวหอมมะลิมากขึ้น ขณะที่ความต้องการข้าวเหนียวเพิ่มขึ้น จากผลกระทบของภัยแล้ง จึงทำให้ส่งออกข้าวเหนียวเพิ่มขึ้น และดันให้ราคาสูงขึ้นตามไปด้วย
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับ "คอฟโก้" บริษัทผู้นำเข้าข้าวของรัฐบาลจีนตามสัญญาซื้อขาย ที่ได้ลงนามใน 1 ล้านตันแรก จากปริมาณที่ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่จะซื้อจากไทย 2 ล้านตันภายใต้รัฐบาลชุดนี้นั้น ล่าสุด กรมฯ ได้หารือรายละเอียดการรับมอบข้าว 1 ล้านตันแรกกับคอฟโก้แล้ว และจะเริ่มนำเข้าล็อตแรกปริมาณ 100,000 ตันในเดือนมิ.ย.59 ส่วนราคาจะตกลงรายละเอียดกันต่อไป ขณะที่อีก 1 ล้านตันที่เหลือ และยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายกันนั้น คาดจะขอให้จีนลงนามในสัญญาซื้อขายได้ในเดือนมิ.ย.59 ในระหว่างการประชุมร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟไทย-จีน ในไทยครั้งต่อไป