นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ตระหนักถึงความสำคัญของการเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของ SMEs ตลอดจนการส่งเสริมธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อยกระดับสินค้าและบริการไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จึงได้ดำเนินการและพัฒนาโครงการ Thaitrade.com ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบธุรกิจต่อธุรกิจThailand B2BE-Marketplace อย่างต่อเนื่อง การันตีความสำเร็จจากรางวัลชนะเลิศ WSIS Prize 2016 สาขาCapacity Building ขององค์การสหประชาชาติ ด้านการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในการทำการค้าออนไลน์ได้ดีที่สุดในโลกประจำปีนี้ โดยตั้งเป้าใน 3 ปี จะสามารถสร้างมูลค่าทางการค้าได้ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท และพัฒนาความรู้ให้แก่ SMEs ได้ไม่น้อยกว่า 15,000 ราย
การดำเนินธุรกิจผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ได้ทวีความสำคัญขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแถบภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยุโรปตะวันตก และเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้อสำคัญในตลาด E-Commerce โลก ในประเทศไทยมีจำนวนผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ถึงร้อยละ 75 ของจำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งประเทศ ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย
ปัจจุบัน E-Commerce ประเภท B2C ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น โดยตลอดปี 2558 มีมูลค่าทางการค้าถึง 410,000 ล้านบาท เนื่องจากสามาถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี มีทางเลือกในการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงรองรับระบบขนส่งถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การสั่งซื้อเปลี่ยนจากการสั่งซื้อในปริมาณมากเป็นการสั่งซื้อปริมาณที่ลดลง (Small Order)
"ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับกระแสการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้พัฒนาต่อยอดThaitrade.com ให้มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบ Business to Customer หรือ B2C ภายใต้ชื่อโครงการThaitrade.com – SOOK (Small Order OK) ซึ่งจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนกรกฎาคม 2559 นี้" รมว.พาณิชย์กล่าว
นอกจากนี้ ยังได้ขยายความร่วมมือระหว่าง Thaitrade.com กับพันธมิตรด้าน E-Commerce อาทิ Alibaba Group (Alibaba.com), Hong Kong Trade Development Council (HKTDC.com), Korean International Trade Association (tradekorea.com), Tradeindia.com และ Austrade มีการพัฒนาคลังข้อมูลการซื้อขาย เพื่อใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มการค้าในตลาดโลก รวมถึงมีการจัดกิจกรรมการซื้อขายทั้งในและต่างประเทศ และ E-Commerce Trade Mission ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรในกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียน +6
นางอภิรดี กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจผ่าน Thaitrade.com อาทิ บริษัท The Clover Co., Ltd. ผู้ผลิตรองเท้าเพื่อสิ่งแวดล้อมแบรนด์ Snowflakes เข้าร่วมโครงการในเดือนมีนาคม 2558 ได้ลูกค้าต่างประเทศรายแรกของบริษัทจาก Thaitrade.com และบริษัท 4 Care Co., Ltd. ผู้ผลิตเครื่องดื่มธัญพืชพร้อมดื่มแบรนด์ 4 Care Balance ใช้ประโยชน์จากการประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ Thaitrade.com ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก ขยายฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์เริ่มดำเนินโครงการ Thaitrade.com มาตั้งแต่ปี 2554 ขณะนี้มีสมาชิกทั้งหมด 116,034 ราย แบ่งเป็นสมาชิกผู้ขายจำนวน 18,358 ราย สมาชิกผู้ซื้อจากทั่วโลกจำนวน 97,676 ราย จำนวนสินค้าบนเว็บไซต์กว่า 240,000 รายการ และมีการเข้าชมสินค้าหรือ Page Views กว่า 18 ล้านครั้ง จาก 237 ประเทศทั่วโลก ประเทศที่เป็นสมาชิกผู้ซื้อมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย จีน เวียดนาม สหรัฐอเมริกา และปากีสถาน ส่วนสินค้าที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเรียงตามลำดับ ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม, เครื่องนุ่งห่ม, ผลิตภัณฑ์ความงาม, สินค้าเกษตร, เครื่องประดับ, ของขวัญและหัตถกรรม, เฟอร์นิเจอร์, ยานยนต์ล สินค้าสุขภาพ, สินค้าบ้านและสวน