นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนเม.ย.59 อยู่ที่ระดับ 85.0 ปรับตัวลดลงจากระดับ 86.7 ในเดือนมี.ค.59 โดยค่าดัชนีฯ ที่ลดลงเกิดจากองค์ประกอบ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
สาเหตุจากในเดือนเม.ย.มีวันทำงานน้อย เนื่องจากมีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้การใช้กำลังการผลิตลดลงโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเลคทรอนิคส์ ปูนซีเมนต์ พลาสติก และปิโตรเคมี เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อการแข็งค่าของเงินบาทที่กระทบต่อขีดความสามารถในการส่งออกและปัญหาภัยแล้งทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 97.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 98.3 ในเดือนมี.ค.เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อกำลังซื้อในภูมิภาคที่ฟื้นตัวช้า จากความรุนแรงของปัญหาภัยแล้ง ราคาน้ำมันในประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน รวมทั้งมาตรการกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะมาตรการที่มิใช่ภาษี
ด้านข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนเม.ย. คือ เร่งส่งเสริมการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่ม CLMV โดยเน้นระดับเมืองใหญ่ เพื่อขยายช่องทางการกระจายสินค้า พร้อมสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการ SMEs เพื่อการลงทุนปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิต อีกทั้งพัฒนามาตรฐานฝีมือแรงงานและระบบการรับรองความสามารถของกำลังแรงงาน และรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวน
นายเจน กล่าวอีกว่า ดัชนีอีกตัวหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจคือปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศ ซึ่งขยายตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.58 จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ
สำหรับปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศช่วงที่ผ่านมา นับตั้งแต่เดือน ธ.ค.58 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.9% พอมาเดือน ม.ค.59 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.0%, เดือน ก.พ.59 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.9% และเดือน มี.ค.59 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 3.9% ทั้งนี้มีความต้องการใช้ในประเทศเฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านตัน
"การใช้ปูนซีเมนต์ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน"นายเจน กล่าว